“ทักษิณ” ขอทุกฝ่าย รักสามัคคี ร่วมใจพัฒนาชาติ ให้อยู่กับปัจจุบัน-อนาคต

Author:

“นายกฯอิ๊งค์” สักการะศาลหลักเมือง-พระแก้วมรกต เอาฤกษ์เอาชัย “ภูมิธรรม” เขินสื่อเรียก “บิ๊กอ้วน” หลังมีข่าวถูกโยกไปกลาโหม ออกปากพรรคไหนยังไม่จบอาจตกขบวน “พิชัย นริพทะพันธุ์” เสียบแทนคุม พณ. ว่าที่ รมต.ใหม่เร่งส่งประวัติคึกคัก โผเพื่อไทยไม่นิ่ง “เสริมศักดิ์” ไม่อยากไปอยูู่ กห. ขอเก้าอี้เดิม รมว.การท่องเที่ยวฯ ดัน “สรวงศ์” ไปนั่งต่างประเทศ ขั้ว “ธรรมนัส”บิ๊กบึ้มได้เพิ่มอีก 1 เก้าอี้ คุมเกษตรฯเบ็ดเสร็จ “ลุงป้อม” ปัดข่าวหลีกทาง “ผู้กอง” เดินเกมสกัดเรียกประชุม กก.บห.พปชร.ด่วน จับตาชงขับพ้นพรรค “เฉลิมชัย-เดชอิศม์”เคลียร์ลงตัว “นายกชาย” ฉะไม่ไว้หน้าผู้อาวุโส “พูดเก่ง-ทำงานไม่เป็น” โวคนสงขลาเชียร์ให้ร่วมรัฐบาลทุกวัน ย้ำสัมพันธ์เคารพนับถือ “นายใหญ่” คนดังทั่วฟ้าเมืองไทยแห่ฟัง “ทักษิณ” ดินเนอร์ทอล์ก แย้มข่าวดี ก.ย.เงินหมื่นถึงมือ 14.5 ล้านคน

พรรคร่วมรัฐบาลเกือบทั้งหมดส่งรายชื่อรัฐมนตรีถึงมือแกนนำพรรคเพื่อไทยเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่พรรคพลังประชารัฐ ขั้ว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ที่ยังดึงเกมเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค ทำให้นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ ถึงกับออกปากหากพรรคไหนยังไม่จบอาจตกขบวน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 ส.ค. ที่ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายก รัฐมนตรี เข้าสักการะศาลหลักเมืองเสริมความเป็นสิริมงคล มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการรองนายกฯและ รมว.คมนาคม นายสุทิน คลังแสง รักษาการ รมว.กลาโหม นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย หลังกราบสักการะพระพุทธรูป พระบรมสารีริกธาตุ น.ส.แพทองธารได้กราบสักการะและผูกผ้าแพร 3 สี บนองค์พระหลักเมืองจำลอง ถวายพวงมาลัยกราบไหว้องค์เทพารักษ์ทั้ง 5 ที่ศาลเทพารักษ์ประจำวันเกิด เติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด คือวันพฤหัสบดี และอ่างสะเดาะเคราะห์ น.ส.แพทองธารมาในชุดโทนสีฟ้าคราม เป็นสีเสริมมงคลประจำวันพฤหัสบดีช่วยเสริมเรื่องการงาน มีรัฐมนตรีบางส่วนสวมเสื้อโทนสีฟ้าด้วย

เจอแฟนคลับดีใจเลือกมากับมือ

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้มอบองค์จำลองศาลหลักเมืองให้เป็นที่ระลึก พร้อมอวยพร “แฮปปี้เบิร์ธเดย์” ต่อมา น.ส.แพทองธารและคณะออกมาถ่ายภาพหมู่ร่วมกันและเดินไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สักการะพระแก้วมรกต พระคู่บ้านคู่เมืองเพื่อความเป็นสิริมงคล ระหว่างที่นายกฯเดินจากศาลหลักเมืองไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ผู้สื่อข่าวกระเซ้าถามว่ารู้สึกอย่างไรที่เดินอยู่ท่ามกลาง รมว.กลาโหม 2 คน คือนายสุทิน และนายภูมิธรรม หลังมีกระแสข่าวว่านายภูมิธรรมจะโยกไปนั่ง รมว.กลาโหม น.ส.แพทองธารได้แต่หัวเราะชอบใจไม่ได้กล่าวอะไร ระหว่างนั้นมีประชาชนเข้ามาทักทายว่า “ดีใจมากเลยที่เจอ เลือกมากับมือ”

“ภูมิธรรม” เขินสื่อเรียก “บิ๊กอ้วน”

นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวจะสลับไปนั่ง รมว.กลาโหม โดยผู้สื่อข่าวแซวว่าต่อไปต้องเรียก “บิ๊กอ้วน” นายภูมิธรรมถึงกับหัวเราะก่อนตอบว่า “เมื่อคืนมีคนถามผมว่าจะมากระทรวงกลาโหมหรือเปล่า ผมก็บอกเขาว่าจะมาเช้าวันนี้ มานั่งกินกาแฟที่กรมสวัสดิการฯ” เมื่อถามต่อว่ากระทรวงสวยดีหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า สวยดี เมื่อถามย้ำว่าต่อไปต้องเรียกว่า “บิ๊กอ้วน” ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมหัวเราะก่อนตอบว่า “ผมอ้วนอยู่แล้ว ไม่ต้องเรียกว่าบิ๊กหรอก”

ขู่พรรคไหนไม่จบอาจตกขบวน

ต่อมาที่กระทรวงพาณิชย์ นายภูมิธรรมให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวอีกครั้งว่า ตำแหน่งต่างๆ เวลานี้ยังไม่ชัดเจน พรรคร่วมรัฐบาลส่วนใหญ่ที่ส่งรายชื่อมาแล้ว ได้ส่งต่อให้เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบ ส่วนพรรคพลังประชารัฐก็ยังไม่ชัดเจน กำลังรออยู่ แต่ไม่ได้หมายถึงหยุดทุกอย่างยังเดินหน้าไปทั้งหมด เมื่อถามว่าทุกอย่างจะนิ่งเมื่อไหร่ นายภูมิธรรมกล่าวแบบผ่อนคลายว่า อยากให้นิ่งในวันพรุ่งนี้ (23 ส.ค.) แต่ก็ไม่รู้จะนิ่งได้เมื่อไร ทั้งหมดนี้ต้องรีบปัญหาพี่น้องประชาชนยังมีอยู่มาก จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆไม่ได้ ต้องเปลี่ยนผ่านให้เร็ว พรรคแกนนำเริ่มต้นด้วยการเร่งทำให้จบภายใน 1-2 วันนี้ แต่ละพรรคก็ขอให้ไปดำเนินการของตัวเองให้จบ หากจบก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าไม่จบถึงเวลาที่เหมาะสมรัฐบาลก็ต้องเดินหน้า วันนี้ไม่ได้ขีดเส้นอะไร เพราะสถานการณ์มันบอกอยู่แล้ว เราพึงรู้ได้ว่าสถานการณ์ตอนไหนควรเป็นอย่างไร ยืนยันว่าไม่มีสุญญากาศ ตอนนี้ปฏิบัติหน้าที่เหมือนนายกฯ แต่พยายามจำกัดอำนาจให้อยู่ในระดับที่พอควร ทุกส่วนต้องพร้อมมุ่งไปที่การแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน

“ลุงป้อม” ปัดข่าวหลีกทาง “ผู้กอง”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายวันเดียวกันได้เกิดกระแสข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. จะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคพปชร. ให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ไปดูแลแทน ภายหลังเกิดความขัดแย้งภายในพรรคจากการส่งรายชื่อรัฐมนตรีโควตาพรรค ผู้สื่อข่าวจึงโทรศัพท์สอบถาม พล.อ.ประวิตรถึงกระแสข่าวดังกล่าว พล.อ.ประวิตรกล่าวยืนยันว่า “ไม่ลาออก จะลาออกทำไม ผมยังทำหน้าที่ต่อไป” เมื่อถามว่ากำลังใจยังดีอยู่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า มีคนโทร.มาให้กำลังใจเยอะ ทั้งนี้ วันเดียวกันนี้ พล.อ.ประวิตรได้เดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับ สส.พรรค ที่ จ.สระบุรี

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

“ธรรมนัส” ยก “หลังฝนฟ้าสว่าง”

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รักษาการ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ถึงการส่งรายชื่อรัฐมนตรีของพรรค พปชร.ว่า มาคุยเรื่องน้ำ ไม่คุยเรื่องการเมือง จะจบกันหมดแล้ว เมื่อถามย้ำว่านายภูมิธรรมระบุของพรรค พปชร.ยังไม่เรียบร้อย ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า เรื่องของพรรค พปชร.ตนไม่ได้ยุ่ง เมื่อถามอีกว่าคนของตัวเองเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ปฏิเสธตอบคำถามพร้อมกล่าวว่า “หลังฝนตก ฟ้ามันก็สว่าง” เมื่อถามว่าตอนนี้ฟ้าสว่างแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสหัวเราะและบอกว่า “หมายถึงเรื่องฝน” เมื่อถามถึงกระแสข่าว พล.อ.ประวิตรพร้อมหลีกทางให้ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า ยังไม่ทราบเรื่อง

“พี่ใหญ่” เรียกประชุม กก.บห.ด่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. มีหนังสือเชิญประชุม กก.บห.พรรค พปชร. มีเนื้อหาระบุว่า เห็นควรกำหนดให้มีการประชุม กก.บห.พรรค พปชร. ในวันที่ 23 ส.ค.เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 5 อาคารสำนักงานใหญ่เลขที่ 547 ถนนรัชดาภิเษก ขอเรียนเชิญเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน ทั้งนี้ น่าจับตาว่า กก.บห. พรรคในกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส ที่มีอยู่หลายคน ไม่ว่าจะเป็นนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ จะเดินทางมาร่วมประชุมด้วยหรือไม่ กก.บห.พรรค พปชร. ในปัจจุบันมีอยู่ทั้งสิ้น 19 คน ที่น่าจับตาที่สุดคือ จะมี กก.บห.คนใดเสนอวาระให้ขับ สส.กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัสพ้นพรรคหรือไม่

“หมอมิ้ง” เร่งจบใน 1-2 สัปดาห์

ที่อาคารชินวัตร 3 นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้ได้รับมอบหมายรวบรวมรายชื่อรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวว่ารายชื่อรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลส่งมาเรียบร้อยแล้วกำลังส่งตรวจสอบ รวมถึงรายชื่อที่ส่งมาเกินก็ต้องตรวจทุกคนเผื่อไว้ด้วย เมื่อถามว่า ที่เกินจำนวนไว้เป็นสำรองกรณีคุณสมบัติไม่ผ่านใช่หรือไม่ นพ. พรหมินทร์ตอบว่า ไม่เชิงสำรอง ทั้งหมดอยู่ในหมวดที่อยู่ในการพิจารณา เมื่อถามถึงกรณีของพรรคพลังประชารัฐ นพ.พรหมินทร์ตอบว่า ขออนุญาตไม่ตอบ ส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ทราบ เขาใส่ซองมา เมื่อถามว่าเรื่องรายชื่อตอนนี้จบแล้วใช่หรือไม่ นพ. พรหมินทร์ตอบว่า ใช่ กำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบอยู่ อาจต้องใช้เวลาเยอะขึ้นเล็กน้อยจากปกติ แต่กระบวนการต่างๆทางฝ่ายเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(ครม.) เตรียมการประสานกับหน่วยงานต่างๆไว้เบื้องต้น เชื่อว่าจะทำให้รอบคอบที่สุด และในเวลาที่เหมาะสม มีการขอความร่วมมือจากองค์กรอิสระด้วย จากเดิมที่เช็กหลายทางรอบนี้ต้องเช็กให้รอบคอบมากขึ้น คาดว่าไม่น่าเกิน 1-2 สัปดาห์

“เศรษฐา” เข้าตึกชิน 3 รับ-ส่งงาน

ต่อมาเวลา 10.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ามาที่อาคารชินวัตร 3 ถนนวิภาวดีรังสิต ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาธิการนายกฯ ตามไล่หลังมา ถือเป็นการมาส่งมอบงานให้ น.ส.แพทองธาร ของนายเศรษฐาเป็นวันที่ 3

“วันนอร์” ชี้ประชาชาติส่งชื่อ “ทวี”

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อรัฐมนตรีสัดส่วนพรรคประชาชาติว่า ทราบจากกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) มีมติส่งชื่อ พ.ต.ท.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นรัฐมนตรี ส่วนจะอยู่กระทรวงไหนเป็นเรื่องที่นายกฯ ตัดสินใจ เมื่อถามถึงกระแสข่าวพรรคประชาชาติเคยขอเก้าอี้รัฐมนตรี 2 ที่นั่ง นายวันมูหะมัดนอร์ตอบว่า ไม่ได้เป็นหนึ่งใน กก.บห.พรรคจึงไม่ทราบเรื่องนี้ รู้เพียงว่าส่งไป 1 รายชื่อ

เก้าอี้ ปธ.สภาไม่เกี่ยวฝ่ายบริหาร

ผู้สื่อข่าวถามถึงตำแหน่งประธานสภาผู้แทน ราษฎร ที่มีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยจะทวงคืน นายวันมูหะมัดนอร์ตอบว่า เก้าอี้ประธานสภาฯเป็นเรื่องของ สส. เป็นกระบวนการของฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่เกี่ยวกับฝ่ายบริหาร ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เนื่องจากนายปดิพัทธ์ สันติภาดา พ้นจากตำแหน่งไป รอทางวิปฝ่ายรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านส่งรายชื่อมา สำนักเลขาธิการสภาฯและกองการประชุม พร้อมจัดให้มีการเลือกทันทีที่ได้รับแจ้งจากประธานวิปทั้ง 2 ฝ่าย วันที่ 23 ส.ค.ที่จะมีการประชุมวิป 3 ฝ่ายจะย้ำอีกครั้ง เพื่อพิจารณาการประชุมร่วม มีวาระที่จำเป็นต้องประชุมภายในวันที่ 30 ส.ค.นี้

เดชอิศม์ ขาวทอง

“เดชอิศม์” เคลียร์ “เสี่ยต่อ” ร่วม รบ.

ด้านนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์กระแสข่าวพรรคเพื่อไทยประสานดึงพรรค ปชป.เข้าร่วมรัฐบาลว่า เบื้องต้นถ้ามีการพูดคุยเกี่ยวกับการร่วมรัฐบาล นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ปชป. เป็นคนเดียวที่จะตอบ ช่วงเย็นวันนี้จะเจอเพื่อสอบถามเรื่องนี้กับนายเฉลิมชัย ถ้าพูดคุยเบื้องต้นหัวหน้ารับเทียบเชิญมาแล้ว ต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม กก.บห.พรรค และ สส.พรรคประชุมร่วมกัน หากที่ประชุมบอกว่าไม่เข้าร่วมรัฐบาล ก็ต้องไม่ร่วมรัฐบาล แต่ถ้าที่ประชุมส่วนใหญ่บอกให้ร่วมรัฐบาล เรามีเงื่อนไขอะไรบ้าง เหมือนสมัยที่แล้วที่ถกเถียงกันถึง 1 วัน 1 คืน ฝ่ายที่เห็นว่าควรร่วมรัฐบาล 61 คะแนน ชนะ ฝ่ายที่ไม่เห็นชอบนำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค สุดท้ายฝ่าย 16 เสียงก็มาร่วมกับฝ่าย 61 เสียง 15 คน ส่วนนายอภิสิทธิ์ได้ลาออกจากหัวหน้าพรรค จึงเป็นมติร่วมรัฐบาล วันนี้เรายังเหมือนเดิม เสียงส่วนใหญ่ว่าอย่างไรเราก็ว่าตามนั้น

ฉะไม่ไว้หน้า “พูดเก่งทำงานไม่เป็น”

เมื่อถามว่าจะเรียกประชุม กก.บห.และ สส.เมื่อไหร่ นายเดชอิศม์ตอบว่า ขอเจอกับหัวหน้าพรรคก่อน จะถามว่าประชุมเมื่อใดและมีเทียบเชิญร่วมรัฐบาลมาแล้วหรือยัง ส่วนกระแสข่าวจะได้โควตารัฐมนตรี 2 ตำแหน่ง ได้ข่าวเช่นนี้เหมือนกัน ส่วนรายละเอียดต้องถามหัวหน้าพรรค เมื่อถามย้ำว่ามีข่าวมีรายชื่อนายเดชอิศม์ และนายเฉลิมชัยเป็นรัฐมนตรี พร้อมทำหน้าที่หรือไม่ นายเดชอิศม์ตอบว่า สส.ของพรรคในสภาฯแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือกลุ่ม ก. เป็น สส.ที่พูดเก่ง ตำหนิเก่ง วิจารณ์เก่ง พวกนี้จะทำงานไม่ค่อยเก่ง พวกนี้มีความคิดไม่อยากร่วมรัฐบาล ส่วนกลุ่ม ข. อาจพูดไม่เก่ง ตำหนิไม่เก่ง แต่เขาทำงานเก่ง จึงถือว่ารอโอกาสเข้าร่วมรัฐบาล จะได้มีโอกาสสร้างผลงานให้กับประเทศชาติและประชาชน เท่ากับสร้างผลงานให้กับพรรคด้วย ดังนั้นกลุ่มไหนมากกว่ากลุ่มนั้นก็ชนะ

ลั่นไม่ทิ้งโอกาสร่วมเป็นรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวถามว่ากลุ่มของนายเดชอิศม์ถือเป็นกลุ่มใคร นายเดชอิศม์ตอบว่า เป็นธรรมชาติการเมือง เข้ามาเป็น สส.อยากช่วยเหลือประชาชน เรามองข้ามพรรคไปแล้ว แต่เรามองไปถึงชาติและประชาชน ถ้ามีโอกาสช่วยเหลือประเทศและประชาชน ต้องไม่ทิ้งโอกาส เมื่อถามว่าจะทำให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรคหรือไม่ เพราะกลุ่มผู้อาวุโสไม่เห็นด้วย นายเดชอิศม์ตอบว่า ท่านอาจพูดก่อนจะลงมติ แต่พอลงมติแล้วเชื่อว่าทุกคนเคารพมติพรรค เมื่อถามย้ำว่าจะไม่ทำให้พรรคแตกใช่หรือไม่ เลขาธิการพรรค ปชป.ตอบว่า ไม่แตก รอบที่ผ่านมาทุกคนคิดว่าพรรคแตก แต่ออกไปแค่คนเดียวคือนายอภิสิทธิ์ ที่ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ขณะนั้น ส่วนเสียงวิจารณ์เรื่องการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย วันนี้ต้องรีเซ็ตประเทศไทย ไม่ใช่รุ่นปู่ทะเลาะกันแล้วมารุ่นเราต้องโกรธกันด้วย ขอให้มองที่ประเทศชาติและประชาชน วันนี้เราเสียโอกาสไปเยอะมาก ถ้ามีโอกาสเราก็อยากช่วยเหลือ

ย้ำสัมพันธ์ “ทักษิณ” เคารพนับถือ

เมื่อถามย้ำว่ายังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนายทักษิณ นายเดชอิศม์ตอบว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เคารพนับถือนายทักษิณ แต่เรื่องการร่วมรัฐบาลเรามอบอำนาจให้หัวหน้าพรรคเป็นคนพูดคุย ส่วนที่หลายคนมองว่าเป็นการทิ้งให้พรรคประชาชนเป็นฝ่ายค้านพรรคเดียว นายเดชอิศม์ตอบว่า แล้วแต่มุมมอง ถ้ามองในเชิงฝ่ายค้านก็อาจมองได้ แต่ถ้ามองว่าเราอยากสร้างผลงานให้กับประเทศชาติ และสร้างผลงานให้กับพรรคเรา โดยแนวคิด อุดมการณ์ที่เรามีเพื่อช่วยเหลือประชาชนก็มองในมุมนั้นได้

คนสงขลาเชียร์ร่วมรัฐบาลทุกวัน

เมื่อถามว่าหากพรรค ปชป.ไปร่วมรัฐบาลอาจเสียฐานเสียงมวลชน พรรคอาจสูญพันธุ์ได้ นายเดชอิศม์ตอบว่า ไม่มี ถ้าเราไปสร้างผลงานให้โดดเด่นระดับประเทศ สามารถกู้ศรัทธาได้ แต่ถ้าเราไปทำงานไม่ได้เลย ทุกพรรคก็โดนประชาชนลงโทษหมด “แฟนคลับที่ไหนไม่ทราบ แต่บ้านผมที่จังหวัดสงขลาเชียร์ทุกวัน ถ้ามีโอกาสต้องร่วมรัฐบาลเพื่อมาแก้ปัญหา มาแก้ทุกข์ให้กับประชาชนได้ ผมถาม สส.เกือบทุกเขตพูดอย่างนั้น” เมื่อถามว่าเป็นการแก้แค้นทางการเมืองหรือไม่ หลังนายทักษิณต้องไปอยู่ต่างประเทศนานถึง 17 ปี กลับมาเชิญพรรค ปชป.ร่วมรัฐบาล นายเดชอิศม์ตอบว่า ไม่หรอก ถ้านายทักษิณคิดแบบนั้นคงเอาเราเข้าร่วมรัฐบาลตั้งแต่รอบแรกแล้ว แต่ครั้งนี้นายทักษิณคงมาเห็นปัญหา อาจมีบางส่วนที่คิดว่าน่าจะเสริมให้กับประเทศคงมาช่วยกันแก้ปัญหาประเทศ

“ชัยชนะ” วอนสลายขั้วขัดแย้ง

นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวจะเข้าร่วมรัฐบาลว่า ยังไม่ทราบ แต่ทราบว่าคุณสมบัติของนายเฉลิมชัย หัวหน้าพรรค พร้อมเป็นรัฐมนตรีอยู่แล้ว เมื่อถามว่ามีเสียงวิจารณ์ว่าหากพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลครั้งนี้ การเลือกตั้งครั้งหน้าสูญพันธุ์ นายชัยชนะตอบว่า อย่าไปมองแบบนั้น ทำไมต้องเสื่อมศรัทธา หรือสูญพันธุ์ พรรคการเมืองทุกพรรคมีชีวิต ถ้าวันนี้เรายังยืนหยัดอยู่กับความขัดแย้งในอดีต ไม่เดินไปข้างหน้า แล้วประเทศจะเดินหน้าไปได้อย่างไร เมื่อถามถึงการมาร่วมงาน Dinner talk vision for Thailand ที่มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พูดถึงทิศทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นายชัยชนะตอบว่า มาร่วมงานเพราะเขาเชิญมา ไม่มีนัยอะไร เมื่อถามว่าจะเจอนายทักษิณหรือไม่ นายชัยชนะตอบว่า ไม่ทราบ ถ้าเจอก็เจอ

ชาดา ไทยเศรษฐ์

“ชาดา” ยันมีชื่อนั่ง รมต.ของ ภท.

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รักษาการ รมช.มหาด ไทย กล่าวยืนยันว่ายังมีชื่อเป็น 1 ในรัฐมนตรี สัดส่วนพรรคภูมิใจไทย ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รายชื่อรัฐมนตรีในส่วนของพรรคภูมิใจไทยทุกอย่างยังเหมือนเดิม และยังมั่นใจในคุณสมบัติของตัวเอง

ว่าที่รัฐมนตรีส่งประวัติกันคึกคัก

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการจัดทำบัญชีรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ล่าสุดหลายตำแหน่งเริ่มมีความชัดเจน รวมถึงบรรดาผู้ที่มีชื่อตามกระแสข่าวจะมาเป็นรัฐมนตรีตามโควตาพรรคร่วมรัฐบาล เริ่มกรอกประวัติและทยอยส่งประวัติให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ตรวจสอบแล้ว ทำให้ตึก สลค. ทำเนียบรัฐบาล หน่วยงานหลักในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี มีความเคลื่อนไหวตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 ส.ค. โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง จะได้นั่งในตำแหน่งเดิม รวมถึงนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม ที่มีข่าวว่าจะมานั่งเก้าอี้ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในโควตา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค พปชร. ให้ตัวแทนมาส่งประวัติที่ตึก สลค.แล้ว

“พิชัย” คุม พณ.-“ธีรรัตน์” รมช.มท.

ขณะที่ความคืบหน้าการเสนอรายชื่อรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนของพรรคเพื่อไทย ล่าสุดค่อนข้างชัดเจนว่า มีเข้าใหม่ 4 คน และออก 4 คน รัฐมนตรีเก่าที่จะหลุดออกไป 4 คน ประกอบด้วย นายจักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ และนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย ส่วนที่จะเข้ามาใหม่ 4 คน ประกอบด้วย นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค พท. นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ นายพิชัย นริพทะ พันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม. นายชูศักดิ์จะมาเป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ ดูด้านกฎหมาย น.ส.ธีรรัตน์ เป็น รมช.มหาดไทย ดูแลงาน กทม. ขณะที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ มีชื่อมาเป็น รมว.พาณิชย์ แทนนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่จะขยับไปเป็น รมว.กลาโหม โดยมีรายงานข่าวว่านายพิชัยกรอกคุณสมบัติเรียบร้อยแล้ว

“ผู้กอง” ได้คุมเกษตรฯ เบ็ดเสร็จ

ส่วนพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีความเคลื่อนไหวหลังมีการส่งโผรัฐมนตรีถึง 2 โผ ทั้งฝั่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ที่เสนอโควตาเดิมทั้ง 4 คน และฝั่ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ทั้งนี้มีความเป็นไปได้สูงว่าพรรคพท.จะเลือกโผฝั่ง ร.อ.ธรรมนัส จากกระแสข่าวเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่จะได้ 2 เก้าอี้ ได้แก่ 1 รมว.เกษตรและสหกรณ์ และ 1 รมช.เกษตรฯ ส่วนเก้าอี้ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ รมช.สาธารณสุข จะหั่นไปให้พรรคประชาธิปัตย์ หลัง ร.อ.ธรรมนัสดึงมาเพื่อให้เสียง สส.ในฝั่งตัวเองมากขึ้น ล่าสุดมีกระแสข่าวว่ากลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัสจะได้เพิ่มอีก 1 เก้าอี้ รมช. โดยหั่นโควตาพรรค พท. คือเก้าอี้ รมช.เกษตรฯ ทำให้กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส ได้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทั้งกระทรวงและสูตรนี้น่าจะชัดเจนแล้วว่า ร.อ.ธรรมนัสจะให้นางนฤมลนั่งแทนในตำแหน่ง รมว.เกษตรฯ แทนตัวเอง ส่วน 2 รมช.เกษตรฯ เสนอชื่อน้องชายคือ นายอัครา พรหมเผ่า และนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรฯ นั่งที่เดิม

“เฉลิมชัย-เดชอิศม์” เคลียร์ลงตัว

ส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ส่งชื่อนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค เป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค เป็น รมช.สาธารณสุข ทั้งนี้หากในกรณีนายเฉลิมชัยมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ มีความเป็นไปได้จะส่งชื่อนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรค มาดำรงตำแหน่งแทน ทั้งนี้ถ้ารวมโควตารัฐมนตรีทั้งฝั่ง ร.อ.ธรรมนัสและฝั่ง ปชป. จะได้ทั้งหมด 5 เก้าอี้

โผ พท.ยังไม่นิ่งวิ่งกันฝุ่นตลบ

ขณะเดียวกัน ในส่วนของพรรค พท.บางตำแหน่งยังไม่ลงตัว โดยเฉพาะตำแหน่ง รมว.กลาโหม ที่ล่าสุดเป็นชื่อนายภูมิธรรม ทำให้นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ที่มีชื่อก่อนหน้านี้มาเป็น รมว.กลาโหม ยังไม่ชัดเจนจะไปอยู่ตำแหน่งไหน มีกระแสว่านายเสริมศักดิ์พยายามจะวิ่งอยู่ในตำแหน่งเดิมทำให้สูตรเดิมวางตัวนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค ที่วางตัวให้เป็น รมว.การท่องเที่ยวฯ อาจถูกโยกสลับไปเป็น รมว.ต่างประเทศ ในส่วนที่ไม่น่าจะมีการปรับเปลี่ยน คือในส่วนรัฐมนตรีของกระทรวงคมนาคมทั้ง 3 คน รวมถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงในส่วนของกระทรวงการคลังยังเป็น 3 คนเดิม

“ขิง” คั่วอุตฯโยก “ปุ้ย” ไป รมช.คลัง

ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้ 4 โควตาเดิมที่มีการเปลี่ยนแปลงคือนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค จะมานั่งเก้าอี้ รมว.อุตสาหกรรม แทน น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ที่จะโยกไปนั่งเก้าอี้ รมช.คลัง ที่เป็นโควตาเดิมที่ว่างอยู่จากรัฐบาลชุดที่แล้ว หลังนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ลาออก ขณะที่ในส่วนของพรรค ภท. ยังคงเป็นโควตาเดิมและเสนอชื่อคนเดิมทั้งหมด เช่นเดียวกับพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ที่ยังเป็นนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค นั่งเก้าอี้ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ทักษิณ ชินวัตร

คนดังแห่ฟัง “ทักษิณ” ดินเนอร์ทอล์ก

ช่วงเย็นที่พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน สื่อในเครือเนชั่นจัดงานดินเนอร์ทอล์ก “Vision For Thailand 2024” มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ ถือเป็นงานแรกที่นายทักษิณขึ้นกล่าวบรรยายพิเศษหลังเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 ส.ค.2566 มีบรรดานักการเมืองภาคธุรกิจ-เอกชน เข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการรองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รักษาการรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รักษาการ รมช.มหาดไทย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รักษาการ รมว.ยุติธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น รักษาการ รมช.พาณิชย์ นายไชยา พรหมา อดีตรมช.เกษตรและสหกรณ์

ดาวเด่นท่ามกลางเจ้าสัวเมืองไทย

ทั้งนี้ นายทักษิณได้เดินทักทายผู้มาร่วมงานตลอดทั้งงาน จากนั้นเดินมานั่งที่โต๊ะประธานในงาน บรรดาผู้มาร่วมงานต่างเดินเข้ามาทักทายกันไม่ขาดสาย มีแขกระดับซุปเปอร์วีไอพีที่ร่วมโต๊ะเดียวกับนายทักษิณต่างเป็นนักธุรกิจใหญ่ อาทิ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์, นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิงส์ จำกัด, นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานกรรมการบริหารของกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการ บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด ฯลฯ

ก.ย.เงินหมื่นถึงมือ 14.5 ล้านคน

นายทักษิณกล่าวบนเวทีว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่รู้ปัญหาตัวเองหมด แต่ไม่ยอมแก้ปัญหา เรารู้ปัญหาแล้วต้องแก้ไขให้ได้ คณะรัฐมนตรีต้องเตรียมตัวไว้ว่านายกฯใหม่ต้องหาเจ้าภาพในแต่ละปัญหา ท่านบอกว่าถ้าไม่มีเจ้าภาพใครจะแก้ ดังนั้นทุกปัญหาต้องมีเจ้าภาพ เรื่องแรกคือการปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือนและธุรกิจให้เดินต่อให้ได้ เรื่องนี้ รมว.คลังคงต้องคุยกับสมาคมธนาคาร และบรรดานักซื้อหนี้ทั้งหลายว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร อีกเรื่องคือโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เรื่องนี้มีคนค้านเยอะเพราะอาจยังไม่เข้าใจ จริงๆแล้วดิจิทัลวอลเล็ตเป็นการยิงนกสามตัวด้วยกระสุนนัดเดียว อันแรกคือกระตุ้นเศรษฐกิจ และการใช้ระบบบล็อกเชน กระตุ้นเศรษกิจได้แม่นยำชุ่มฉ่ำทั้งประเทศ แล้วคนไทยจะเข้าใจเทคโนโลยี และให้คนเข้าไปใช้ทุกบริการของภาครัฐ อีกหน่อยรัฐอาจออกบอนด์ขายประชาชนรายย่อย นี่คือสิ่งที่เราหวังว่าดิจิทัลวอลเล็ตจะเป็นประโยชน์กับประเทศมากกว่ากระตุ้นเศรษกิจ แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้ ทางคณะกรรมการเล่าให้ฟังว่าเมื่อมีการตั้งงบปี 2567 เพิ่มเติมกว่า 1.2 แสนล้านบาท บวกกับงบกลาง 2 หมื่นกว่าล้านบาท เป็น 1.45 แสนล้านบาท ใช้ใน ก.ย.67 จะแจกจ่ายให้กลุ่มเปราะบาง 13.5 ล้านคน และคนพิการ 1 ล้านคน รวม 14.5 ล้านคน จะให้คนละ 1 หมื่นบาททันที เป็นการกระตุ้นเศรษกิจ เบื้องต้นทันที เมื่อเดือน ต.ค.งบใหม่ออก จะคัดกรองคนที่ลงทะเบียนไว้ 30 ล้านคน ว่าใครได้ไปแล้วบ้าง ใครเข้าเกณฑ์บ้าง แล้วจ่ายที่เหลือหากระบบเสร็จก็จะจ่ายผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เป็นการกระตุ้นเศรษกิจที่แม่นยำ เพราะการใช้เงินสดไม่แม่นยำ

ขออยู่กับปัจจุบันและอนาคต

นายทักษิณกล่าวต่อว่า อยากขออย่างหนึ่ง ขอให้คนไทยรักกัน เราคือคนไทยด้วยกัน ตนโดนเยอะที่สุด เห็นนรกและสวรรค์อยู่ในชาติเดียวกัน ถือว่าอดีตก็คืออดีต ไม่ใช่ความจำเสื่อม เราจำได้หมดแต่อยากอยู่กับปัจจุบันและอนาคต อย่าไปมองว่า คนนั้นคนนี้ไม่ใช่พวกเรา เพราะเราคนไทยด้วยกัน เน้นความสามัคคี เพราะสิ่งที่พูดไปทั้งหมดถ้าขาดความสามัคคีก็ไม่สามารถทำได้ อยากให้เห็นว่าที่วันนี้รัฐบาลใหม่มีพรรคโน้นพรรคนี้มาร่วมกันเยอะแยะไปหมด เป็นสิ่งที่จะช่วยประเทศชาติพัฒนาได้ง่ายมากขึ้น แข็งแรงมากขึ้น แก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ แก้กฎหมายที่ทำให้คนต้องลำบาก ถึงเวลาแล้วที่เราต้องรวมน้ำใจกันให้เป็นหนึ่งและแก้ปัญหา รักบ้านเมืองอยากเห็นบ้านเมืองดี และพร้อมอยู่ข้างหลังช่วยคิดให้ทางภาครัฐและภาคเอกชน ใครต้องการปรึกษายอมเสียค่ากาแฟหน่อย แล้วตนแวะไปดื่มด้วย

สร้างเมืองใหม่-ลุยรถไฟฟ้า 20 บาท

นายทักษิณกล่าวอีกว่า การลงทุนภาครัฐต้องเกิดขึ้นในช่วง 3 ปีของรัฐบาลนี้ และต่อด้วยชนะเลือกตั้ง ทำต่อในรัฐบาลหน้า สิ่งสำคัญที่พูดไว้คือการถมทะเลบางขุนเทียน-ปากน้ำ เพื่อให้ได้พื้นที่ขยายความแออัดของ กทม. ส่วนหนึ่งเป็นเมืองสีเขียวเป็นเมืองใหม่ ให้เฉพาะรถไฟรถไฟฟ้าวิ่งเท่านั้น มีรถไฟเชื่อมและมีการป้องกัน กทม.ไม่ให้น้ำท่วมได้ ส่วนรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายคงต้องทำ เพราะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยยืนยันว่าเราพูดไปแล้วเราต้องทำให้ได้ ฉะนั้นเรื่องรถไฟฟ้า 20 บาท เราอาจต้องเวนคืนรถไฟฟ้าที่เอกชนบริหารกลับมาเป็นของรัฐแล้วจ้างเอกชนเป็นคนบริหารและเราต้องกำหนดค่าตั๋ว ไม่เช่นนั้นเอกชนจะมุ่งเน้นเรื่องกำไร เป็นสิ่งที่เราต้องทำและต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟรถไฟฟ้า ส่วนเรื่องรถอีวีตอนช่วงที่อยู่สนับสนุนอีโคคาร์ เลยใช้ภาษีสรรพสามิตสนับสนุนอีโคคาร์ เมื่อรถอีวีจีนมา อยากขอร้องว่าให้ไทยเป็นฐานผลิตพวงมาลัยขวา ไม่ว่า BYD, GWM อยากให้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิตพวงมาลัยขวาได้หรือไม่ เรื่องอีโคซิสเต็มอุตสาหกรรมรถยนต์ต้องรักษาไว้ ทำอย่างไรให้รถไฟฟ้าจากจีนมาใช้ส่วนประกอบในไทยบ้าง ต้องเริ่มเจรจาได้แล้ว ขอให้คนที่เกี่ยวข้องเจรจากัน

วันมูหะมัดนอร์ มะทา

ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีมีผู้ร้องสอบจริยธรรมพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กรณีคุกคามนักข่าวว่า สภาฯเป็นเพียงหน่วยงานรับเรื่องไม่มีหน้าที่วินิจฉัย ประธานรัฐสภาต้องส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ป.ป.ช. หรือศาลฎีกา ถ้าข้อกฎหมายถูกต้อง ต้องส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา ยังไม่เห็นคำร้องเป็นเรื่องจริยธรรมหรือร้องเรื่องอะไร ขอให้ดูว่าร้องพล.อ.ประวิตรในฐานะใด ในฐานะ สส.ก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการจริยธรรม สภาผู้แทนราษฎร แต่ถ้าเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของ สส.อาจเป็นเรื่องของหน่วยงานอื่น เพราะเหตุเกิดนอกสภาฯ

ปชช.กระตุกจริยธรรม-ตุลาการ

ขณะที่นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แถลงว่า ฟังคลิปการบรรยายของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนหนึ่ง มีเนื้อหาเยาะเย้ย เสียดสี ทวงบุญคุณพรรคก้าวไกล หรือพรรคประชาชน อดกังวลถึงวุฒิภาวะและสติปัญญาของคนที่คอยตัดสินใครว่า ไม่มี หรือมีจริยธรรมไม่ได้ ยิ่งเห็นได้ว่าผมหงอกไม่ได้แสดงถึงสติปัญญา ในฐานะนักกฎหมายคนหนึ่งขอตั้งคำถามไปยังบรรดาตุลาการทั่วประเทศว่า ฟังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนนี้พูดแล้ว ท่านคิดเช่นใด บูรพตุลาการ หรือตุลาการในอดีตที่เคยสั่งสอนตุลาการมาหลายชั่วคน เคยสั่งสอนตุลาการรุ่นต่อๆมาให้กล่าวเยาะเย้ยเสียดสี หรือทวงบุญคุณกับตัวความในคดีที่ตนเองตัดสินเช่นนี้หรือ อาจทำให้สถาบันตุลาการสั่นคลอน จริยธรรมของตุลาการจะถูกตั้งคำถามจากประชาชน จะคะนองปากเอาคำตัดสินที่ตนตัดสินมาเสียดสีคนอื่นไม่ได้ เหมาะสมเป็นตุลาการหรือไม่

8 คนที่เหลือกล้าเตือนกันไหม

นายจุลพงศ์กล่าวต่อว่า นับวันเราจะเห็นคนบางกลุ่มที่คอยชี้ว่าคนนี้ไม่มีจริยธรรม คนนั้นไม่มีจริยธรรม แสดงความคิดความอ่านต่อสาธารณะ แทนที่จะทำให้คนนับถือและเชื่อมั่นในสถาบันที่คนพูดสังกัดมากขึ้น กลับทำลายสถาบันที่ตนสังกัด ตั้งคำถามไปยังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอีก 8 คน จากทั้งหมด 9 คน ว่าอีก 8 คน เห็นด้วยกับการกระทำของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนนี้ กล้าที่จะตักเตือนจริยธรรมกันเองหรือไม่ ยิ่งทำให้เห็นถึงความจำเป็นในการแก้ไขกฎหมายเพื่อลดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ หรือยุบไป

“อดิศร” ชงญัตติด่วนร่วมเช็กบิล

ด้านนายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้ยื่นญัตติด่วนด้วยวาจา ต่อประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งไปกล่าวบรรยาย ใช้ถ้อยคำที่เป็นการไม่ประพฤติตนอยู่ในจริยธรรมของการดำรงตำแหน่งตุลาการ เป็นการเหยียดหยามทำลายคู่กรณี มีมายาคติ ไม่คู่ควรดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐ ธรรมนูญ เป็นอันตรายต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อยากให้ฝ่ายนิติบัญญัติตรวจสอบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ผู้สื่อข่าวถามว่าจะยื่นถอดถอนใช่หรือไม่ นายอดิศรตอบว่า ขึ้นอยู่กับที่ประชุมจะทำอย่างไร ไม่ได้คิดว่าเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ศักดิ์ศรีของฝ่ายตุลาการ ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร แยกเพื่อถ่วงดุลกัน เมื่อถามว่าจะส่งเรื่องต่อป.ป.ช.ไต่สวนจริยธรรมหรือไม่ นายอดิศรตอบว่า เป็นขั้นตอนต่อไป ใครไม่เหมาะสม ปาราชิกแล้ว ก็อย่าเป็นพระต่อไป

เปิดกรุ “เศรษฐา” รวย 1,018 ล้าน

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายเศรษฐา ทวีสิน กรณีพ้นตำแหน่ง รมว.คลัง เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2567 มีทรัพย์สินรวม 1,018,719,225 บาท เป็นทรัพย์สินของนายเศรษฐา 659,205,182 บาท นางพักตร์พิไล ทวีสิน คู่สมรส มี 359,514,043 บาท โดยนายเศรษฐาและนางพักตร์พิไลมีหนี้สินรวม 71,887 บาท ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับตอนที่นายเศรษฐาเข้ารับตำแหน่งนายกฯและ รมว.คลัง เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2566 และยื่นทรัพย์สินเพิ่มเติมมีทรัพย์สิน 1,020,468,727 บาท รวมแล้วมีทรัพย์สินลดลง 1,749,502 บาท

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *