กรมอุทยานฯ ลุยตรวจฟาร์ม ลูกเสือโคร่งหลุดบางปะกง ชี้เจ้าของอ้างใช้ลูกสิงโตเพนต์สีเป็นลูกเสือ เพื่อถ่ายหนัง แต่พบพิรุธ คาดเป็นคนละตัว จ่อตรวจยึด ดำเนินคดี พร้อมสแกนไมโครชิพทั้งฟาร์ม ถูกต้องหรือไม่
วันที่ 17 พ.ค. 67 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวถึงกรณีลูกเสือโคร่ง โผล่ในซอยบางวัว-บางจาก7 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ล้อมจับและนำตัวส่ง สภ.บางปะกง
จากนั้นมีชายอ้างเป็นเจ้าของ โดยอ้างว่าเป็นไลเกอร์ ซึ่งได้นำมาเพนต์สีทำเป็นลายให้เหมือนลูกเสือโคร่ง เพื่อนำไปถ่ายทำหนัง ว่า ในวานนี้ (16พ.ค.) ตนได้สั่งการชุดเหยี่ยวดงไปตรวจที่ฟาร์มแล้ว ซึ่งมีการนำลูกสิงโตมาโชว์ให้เจ้าหน้าที่ดู และบอกว่าได้นำไปเพนต์สีให้เหมือนลูกเสือโคร่งเพื่อจะถ่ายทำแต่ได้ทำลูกสิงโตหลุด แต่จากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่คาดว่าไม่ใช่ตัวเดียวกัน
นายอรรถพล กล่าวอีกว่า โดยในวันนี้ (17พ.ค.) จึงให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจไมโครชิพ ปรากฏว่าไม่มีข้อมูลอะไรที่มีหลักฐานตามราชการเลย จึงอาจต้องนำไปสู่การตรวจสอบ ตรวจยึดและดำเนินคดี ขณะเดียวกันชุดเหยี่ยวดงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่สภ.บางปะกง
ทีมกู้ภัยที่ไปจับลูกเสือในวันนั้น เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมว่าเรื่องราวเป็นมายังไง และมีการส่งมอบอย่างไร คงต้องสืบเรื่องนี้ต่อไป เบื้องต้นทราบจากเจ้าหน้าที่ว่า เจ้าของกำลังจะนำลูกเสือโคร่งมามอบตัวแล้ว
- อ่าน เจอตัวแล้ว คนอ้างเป็นเจ้าของ ลูกเสือโคร่ง โผล่บางปะกง เร่งตรวจสอบ
- อ่าน ผวาทั้งชุมชน ลูกเสือโคร่ง โผล่กลางดึก กัดคน เจ้าหน้าที่เร่งช่วยจับวุ่น
“การที่ชายคนดังกล่าวอ้างว่า จากลูกสิงโต เป็นลูกเสือ อาจเป็นเพราะกลัวความผิด ส่วนฟาร์มแห่งนี้อยู่ในพื้นที่อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา พบว่ามีการแจ้งจดทะเบียนและมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย แต่ตนไม่แน่ใจว่าเสือหรือสิงโตที่เลี้ยงอยู่ในฟาร์มแห่งนี้ ถูกต้องทั้งหมดหรือไม่ ซึ่งจะตรวจสอบทั้งหมด ถ้าไม่ถูกต้องก็ต้องตรวจยึดและดำเนินคดี”
นายอรรถพล กล่าวอีกว่า สำหรับสิงโตเป็นสัตว์ในบัญชีไซเตส เป็นสัตว์ป่าควบคุม ซึ่งต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมอุทยานฯ ทั้งเรื่องการนำเข้า การส่งออก การเลี้ยงดู การเคลื่อนย้ายต้องอยู่ภายใต้ระเบียบของกรมอุทยานฯ ซึ่งถ้าฟาร์มไม่มีความพร้อมในการดูแล หรือนำเข้ามาเยอะเกิน และกระทบต่อพี่น้องประชาชน ก็ต้องมีการควบคุม
คาดว่าภายในเดือนมิ.ย. จะทราบจำนวนว่าต้องควบคุมอยู่ในปริมาณที่เท่าไหร่จึงจะเหมาะสม ซึ่งตอนนี้สำรวจทั่วประเทศแล้ว เพราะทุกวันนี้ถือว่าเป็นธุรกิจหนึ่งที่สร้างเศรษฐกิจ เพียงแต่ว่าต้องให้มีการควบคุมที่ดี
อธิบดีกรมอุทยานฯ ระบุว่า ส่วนไลเกอร์ ขณะนี้ยังไม่ใช่สัตว์ป่าคุ้มครอง ได้สั่งการกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญาไซเตส ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องข้อกฎหมายแล้ว หากจะระบุชนิดพันธุ์เพิ่มก็ต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย