ร้อง ตร.กัก3 ชม. หนุ่มเส้นเลือดสมองแตก ไปรพ.ขับชน โดนหาว่าเมา แม้แฟนยืนยันป่วย

Author:

แฟนสาว ร้องสายไหมต้องรอด หลังแฟนป่วยเส้นเลือดในสมองแตกขับรถชน ย่านยานนาวา ถูกตำรวจกักตัวอ้างเมาแล้วขับ ยื้อเวลา 3 ชั่วโมง ไม่ยอมส่ง รพ. จนหมดสติดับ

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 21 ก.ค.ที่วัดบุณยประดิษฐ์ ถนนพุทธมณฑลสาย 2 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้รับการร้องเรียนจาก นางสาวมะนาว อายุ 39 ปี (สงวนนามสกุล)

เพื่อขอความเป็นธรรมกรณี นายกฤษณ์ ธรรมมล อายุ 41 ปี แฟนหนุ่ม เป็นพนักงานขับรถรับ-ส่ง ผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์​ หลังเสียชีวิตจากอาการเส้นเลือดในสมองแตก เพราะเข้ารับการรักษาล่าช้า จากการถูกตำรวจโรงพักแห่งหนึ่ง ย่านสาทร ยื้อไม่ให้ไป รพ.อ้างว่าเมาแล้วขับเฉี่ยวชนคู่กรณี

นางสาวมะนาว เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุคือวันที่ 13 กรกฎาคม ที่ผ่านมา แฟนหนุ่มของเธอขับรถสนามบินไปรับลูกค้าจากสนามบินสุวรรณภูมิไปส่งที่โรงแรมย่านยานนาวา พอส่งลูกค้าเสร็จระหว่างเดินทางกลับ แฟนหนุ่มโทรศัพท์หาบอกว่า ปวดหัวมากและอาเจียน จึงบอกให้แฟนไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด

ระหว่างขับรถไปโรงพยาบาลแฟนหนุ่มเริ่มมีอาการหนัก ไม่สามารถควบคุมรถได้ จึงประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คันอื่นหลายคัน พอโทรศัพท์หาแฟนเบอร์แรกไม่รับสาย จึงโทรเข้าอีกเครื่องซึ่งเชื่อมต่อกับระบบบลูทูธของรถ และรับสายอัตโนมัติ ตอนนั้นได้ยินเสียงคนเคาะกระจกรถ โวยวาย และบอกให้แฟนลงมาจากรถ แต่ไม่ได้ยินเสียงแฟน จึงวางสายไป

จากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง แม่ของแฟนก็โทรศัพท์มาหาตน บอกว่าตำรวจโทรมา บอกว่าแฟนเมาแล้วขับรถไปชนคันอื่น ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สน.ยานนาวา ตนติดธุระอยู่ต่างจังหวัด จึงให้แม่ไปที่โรงพักก่อน ระหว่างนั้นตนก็โทรศัพท์หาตำรวจ ขอคุยกับแฟน และขอให้พาแฟนไปส่งโรงพยาบาลก่อน เพราะแฟนป่วย และยืนยันว่าแฟนไม่ได้เมา แต่ตำรวจไม่ยอมให้คุยกับแฟน บอกว่าแฟนไม่ยอมลงจากรถ และให้รีบตามบริษัทประกันมาที่ สน.ด่วน

กระทั่งเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ตนจึงวิดีโอคอลหาพี่ชายของแฟนที่อยู่ สน. พบว่าแฟนหมดสติไปแล้ว กู้ภัยจึงนำตัวส่งโรงพยาบาล ถึงโรงพยาบาลเกือบ 4 ทุ่ม แพทย์ที่ให้การรักษาบอกว่ามาช้าไป หลังจากนั้นก็พยามรักษาตามอาการอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 3 วัน ก่อนเสียชีวิต ซึ่งในใบรับรองแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าเส้นเลือดในสมองแตก เธอจึงตรวจสอบ GPS ย้อนหลัง พบว่าแฟนอยู่ที่ สน.ยานนาวา เกือบ 2 ชั่วโมง ซึ่งตนมองว่าหากนำส่งโรงพยาบาลเร็วกว่านี้แฟนอาจไม่เสียชีวิต

ขณะเดียวกันแพทย์ได้นำเลือดของแฟนหนุ่มไปตรวจหาแอลกอฮอล์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจ และยืนยันว่า แฟนไม่เคยมีพฤติกรรมดื่มแล้วขับแน่นอน และถ้าผลตรวจออกมาพบว่า ไม่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดก็จะปรึกษากับฝ่ายกฎหมาย อาจจะดำเนินการกับตำรวจ สน.ยานนาวา เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แฟนหนุ่ม ซึ่งอยากได้คำขอโทษจากตำรวจ เพราะวันนี้สูญเสียคนในครอบครัวไป และหลังเกิดเหตุตนและครอบครัวยังไม่ได้รับการขอโทษหรือแสดงความรับผิดชอบจากตำรวจเลย แม้กระทั่งพวงหรีดแสดงความเสียใจก็ยังไม่ได้รับ

ด้าน นายเอกภพ ระบุว่ากรณีนี้เป็นบทเรียนราคาแพงให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างรอบคอบและระมัดระวังมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้กล่าวโทษว่าตำรวจทำงานไม่ดีหรือบกพร่อง ซึ่งต้องใช้วิจารณญาณในการทำงานเพราะเป็นเรื่องของชีวิตคน

แต่อยากให้ใช้ความระมัดระวัง พร้อมเน้นย้ำว่าเหตุการณ์แบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และในกรณีนี้ผู้เสียหายที่ถูกผู้ตายเฉี่ยวชน ยังมีความเห็นอกเห็นใจ บอกให้ตำรวจรีบพาผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว ผู้เสียหายยังบอกอีกว่าจากที่เข้าไปดูอาการผู้ตายเบื้องต้น ไม่ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ติดที่ตัวเลย แต่ดูก็รู้แล้วว่าป่วย ไม่ใช่คนเมา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *