ตา 64 ยิ้มแป้น ขอกอดเงิน 1 คืน ก่อนนำไปซื้อข้าวสารมาหุงกิน หลัง ธกส.ให้เบิกเบี้ยชราได้ แจงถูกอายัด ปมหนี้ 20 ล้านบาท
วันที่ 7 มิ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าว จ.ฉะเชิงเทรา รายงานว่า หลังจากนายบุญยืน จูมลี อายุ 64 ปี ชาว จ.ฉะเชิงเทรา ออกมาร้องเรียนว่าต้องคดีล้มละลายตกเป็นหนี้กว่า 20 ล้านบาท หลังจากถูกเจ้านายเก่าใช้ชื่อไปประมูลงานรับเหมา ทำให้ถูกธนาคารอายัดเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจนไม่มีเงินจะซื้อข้าว
ล่าสุดนายพงษ์ชัย นามไพ สมาชิก อบต.ท่าตะเกียบ นำนายบุญยืนเดินทางไปพบ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ โลหะเวช ผกก.สภ.ท่าตะเกียบ เพื่อขอปรึกษาว่าทำไม ธกส. อายัดเงินเบี้ยผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นเงินที่รัฐบาลจัดสรรให้เดือนละ 600 บาท
โดยมีนายบุญนาค พรพจน์ธนมาศ นายก อบต.คลองตะเกรา ในฐานะประธาน กต.ตร.สภ.ท่าตะเกียบ นายอำนวย เกษตรสินธุ์นุกูล นายอำเภอท่าตะเกียบ พ.ต.ท.มนัสจันทวาส รอง ผกก.(ป.) ปลัดฝ่ายความมั่นคงท่าตะเกียบ ผู้นำท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ ธกส.ท่าตะเกียบ ร่วมพูดคุย
ทางฝ่ายปกครองตั้งคำถามกับ ธกส. ว่า ใช้เหตุผลใดมาอายัดเงินเบี้ยผู้สูงอายุเพราะเป็นเงินมีที่มาที่ไป ธกส.บอกว่า เป็นคำสั่งจากสำนักงานใหญ่ หากจะเบิกต้องทำเรื่องขออำนาจศาล เพราะกรมบังคับคดีได้ดำเนินการขั้นตอนกฎหมาย แต่หลังจากพูดคุยเจรจาอย่างตึงเครียด จึงได้ข้อสรุปว่า ธกส.จะทำการปลดล็อกให้ลุงสามารถเบิกเงินตามสิทธิ์ได้
นายอำนวย เกษตรสินธุ์นุกูล นายอำเภอท่าตะเกียบ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ลุงบุญยืนเป็นชาวบ้านธรรมดา จริงๆ หน่วยงานก่อนจะอายัดบัญชี ควรจะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินก่อน ยิ่งเมื่อทราบว่านายทุนมาหลอกให้ลุงเปิดบัญชีจนเกิดเป็นคดีระหว่างกรมสรรพากรกับลุงบุญยืน วงเงินกว่า 20 ล้านบาท ทำให้รัฐได้รับความเสียหาย ควรจะไปตรวจสอบติดตามนายทุนหรือไม่
ด้าน พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ โลหะเวช ผกก.สภ.ท่าตะเกียบ เปิดเผยว่า ลุงบุญยืนเล่าว่า เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว ถูกนางแขที่มีอายุน้อยกว่าประมาณ 3 ปี เป็นคนภาคเหนือ หลอกให้เปิดบัญชีที่ อ.นายาอาม จ.จันทบุรี และให้ไปเซ็นเบิกเงินให้นางแขยอดสูงสุดคือครั้งละ 5 ล้านบาท ลุงก็ไปเซ็นเบิกในฐานะเจ้าของบัญชี แล้วได้เงินตอบแทนครั้งละ 200-300 บาทเท่านั้น
สำหรับเรื่องคดีความนั้น นายอำเภอท่าตะเกียบ ระบุว่า ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ทางปลัดฝ่ายความมั่นคงท่าตะเกียบจะเป็นธุระเรื่องประสานขั้นตอนขึ้นพบศาลนัดแรก พร้อมประสาน พม.ฉะเชิงเทรา กาชาด และหน่วยงานต่างๆ ร่วมลงพื้นที่บ้านลุงบุญยืนเพื่อหาทางเยียวเบื้องต้นต่อไป
จากนั้นนายอำเภอท่าตะเกียบ ได้พาลุงบุญยืนเดินทางเข้า ธกส.ท่าตะเกียบ เพื่อเบิกเงินตามสิทธิ์ โดยมีรองผู้จัดการ ธกส.ท่าตะเกียบ มาดูแลตามขั้นตอน
ลุงบุญยืน ยิ้มเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ดีใจมากรอคอยเงินผู้สูงอายุมาถึง 4 ปี คืนนี้หลังจากเบิกเงินมาแล้วจำนวน 4,000 บาท จากยอดสะสมจริง 20,000 กว่าบาท ตนจะนำไปนอนกอด 1 คืน และจะไปซื้อเตาแก๊ส เพราะลำบากเหลือเกินที่ต้องก่อไฟเตาถ่าน
ลุงบุญยืน ได้กล่าวขอบคุณนายอำเภอท่าตะเกียบ ตำรวจ ผู้นำท้องถิ่น และ ธกส. ที่ทำให้ได้จับเงินตามสิทธิผู้สูงอายุ พร้อมรับมอบพัดลม