แม่น้องแจน เหยื่อฆ่าปาดคอตัดมือพบ ตร. ทนายชี้ “แซน” ไม่ได้บ้า

Author:

ทนายไพศาลพร้อมครอบครัว “น้องแจน” สาววัย 18 ชาวอุตรดิตถ์ ถูกแฟนหนุ่มฆ่าตัดมือ เข้าพบตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต ขอดูโทรศัพท์มือถือ มั่นใจมีข้อมูลซึ่งเป็นข้อเท็จจริง ยืนยัน ผู้ตายนั้นแสนดีดูแลฝ่ายชายด้วย  ส่วนข้อหา “ฆ่าโดยเจตนา” นั้นเบาไป น่าจะเป็นการ “ฆ่าโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน”

เวลา 10.00 น.วันที่ 7 มิ.ย.67 นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความพร้อมด้วยแม่และพี่สาวของนางสาววรัญญา หรือแจน หรือ หมิ๊งหมิง” อายุ 18 ปี ได้เดินทางมาที่ สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี เพื่อแจ้งความร้องทุกข์และติดตามคดีของลูกสาว ที่ถูก นายแซน แฟนหนุ่มวัยเดียวกัน ฆ่าในบ้านพัก นำศพหมกข้างทาง และตัดมือ 2 ข้างไปโยนทิ้ง

นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ กล่าวว่า มีประเด็นที่ต้องถามเจ้าที่ตำรวจเพิ่มเติมหลายประเด็น เพราะว่าพยานหลักฐานที่พบในโทรศัพท์ และมีข่าวออกมาว่าทางผู้ต้องหาอ้างว่า ถูกทำร้ายจากฝ่ายหญิง ซึ่งจริงๆ แล้วข้อมูลจากโทรศัพท์จะยืนยันให้ชัดเจนว่าฝ่ายหญิงนั้นแสนดี

“จะมาเฉลยว่าแสนดียังไงคือ เป็นผู้หญิงที่ดีมากต้อง พูดได้ง่ายๆ ว่าดูแลผู้ชายและครอบครัวผู้ชายด้วยแต่จะไม่พูดถ้าไม่มีหลักฐาน เดี๋ยวจะขอดูจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ วันนี้ คุณแม่กับพี่สาวจะขอดูโทรศัพท์จะขอจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้าไม่ได้ก็ จะขอคัดสเตทเมนต์จะบอกว่ามันมีข้อมูลหลายอย่าง และวันนี้ก็จะมีการไปรับศพ โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูที่ปทุมธานีโดยนายกฯและทีมงาน ขนศพให้ฟรีทั้งไปถึงอุตรดิตถ์ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ แม้แต่บาทเดียว”

ทนายไพศาล กล่าวด้วยว่า ฝากไปถึงเพจต่างๆ ที่มีการกล่าวอ้าง ตอนนี้เคสของเด็ก 18 ไม่มีค่าใช้จ่าย เรื่องขอเงินบริจาค เป็นการแอบอ้าง คุณแม่กับพี่สาวเขาไม่รู้เรื่อง แล้วก็มูลนิธิต่างๆ ใดๆ ที่จะให้ไกล่เกลี่ยไม่มี คดีต้องดำเนินถึงที่สุด และอีกประเด็นหนึ่งเดี๋ยวไปนิติเวช จะถามคุณหมอผู้ชันสูตรจะว่าเป็นอย่างไร ซึ่งข้อมูลและข่าวที่ทนายได้มามันไม่ใช่ข้อหานี้ ข้อหานี้มันเบาไป แต่จะขอถามเจ้าที่ตำรวจก่อนเรื่องโทรศัพท์แล้วก็ถามคุณหมอเรื่องสาเหตุการตาย ข้อหาที่ตั้งฆ่าคนตายโดยเจตนา ทนายมองว่ามันไม่ตรงตามข้อเท็จจริง และเดี๋ยวจะไปเชิญวิญญาณที่จุดเกิดเหตุ แต่สถานที่ที่เสียชีวิตคือ ที่หมู่บ้านซึ่งทางโครงการไม่อนุญาตให้เข้า ก็เป็นเหตุผลทางธุรกิจของเขา แต่ได้คุยกับหมอปลาแล้วหมอปลาบอกว่าให้ไปเชิญในจุดที่กองขยะเพราะว่ามันมีสองจุด เรื่องของมือกับเรื่องของตัว จะไปเชิญที่กองขยะแล้วทางร่วมกตัญญูของปทุมฯ ก็จะส่งไปที่อุตรดิตถ์เลย และทราบจากคุณแม่ว่าวันนี้จะไม่รดน้ำศพ

ทนายไพศาล กล่าวด้วยว่า เรื่องเงิน 50,000 บาท ซึ่งมีการอ้างมาว่ามีการไกล่เกลี่ย 50,000 บาทนั้น คงไม่ใช่เพราะไกล่เกลี่ยไม่ได้ เป็นโทษอาญาแผ่นดิน และไม่ต้องมาอ้างว่าป่วยจิตมันฟังไม่ขึ้น เพราะว่าผู้ป่วยจิตแต่มีการวางแผนการเตรียมการ เราก็มองออกอยู่แล้ว แล้วก็เรื่องอายุ เคยมีเคสเด็ก 18 ก่อคดีซ้ำ ตรงนี้ต้องศาลผู้ใหญ่ และมาตรานี้ประชาชนยังเข้าใจผิดว่าศาลจะต้องลงกึ่งหนึ่ง ความจริงไม่ใช่

“ฝากบอกคนไทยเลยว่าถ้าเกิดคนที่อ้างว่าป่วยจิตหรือกินยาจิตเวชนี่ ถ้าป่วยจริงต้องกินขี้ได้ คือกฎหมายข้อนี้การกระทำโดยขาดจิตสำนึกผิดชอบชั่วดี จิตฟั่นเฟือน แต่อันนี้ไม่ใช่นะครับ เพราะว่าเขาใช้ชีวิตปกติ ผมดูภาพมาจากข่าวเห็นว่าประคองกันมาเลย ไม่ตอบนักข่าวอะไรเลย แต่อยู่ในห้องก็คุยได้ก็เดี๋ยวก็รู้นะครับว่าป่วย หรือไม่ป่วย ทางกฎหมายผมจะเอาหนักเลย ผมถามหมดคนที่เกี่ยวข้องกับคดี แล้วไอ้พวกที่ไปจะเคลียร์ 50,000 อะไรเนี่ย จะอ้างเป็นกลุ่มบุคคล หรือคณะบุคคล หรือว่ามูลนิธิใด ไม่ต้องเข้ามาอย่ามาหาแสงกับในเรื่องแบบนี้ แม่เขาเสียใจ ส่วนที่ว่าทางฝ่ายผู้หญิงทำไม่ดี ทำร้ายผู้ชายเดี๋ยวจะเข้าไปขอดูมือถือ จะได้รู้ข้อเท็จจริงว่าผู้หญิงเค้าดีแค่ไหน และอีกประเด็นหนึ่งสาเหตุการตาย ผมมองว่าข้อหามันเบาไป เพราะทราบเบื้องต้นมาจากเพจบางเพจว่า ผลชันสูตรมีการสำลักเลือดเพราะมีการปาดคอ ความหมายคือตอนนั้นยังไม่ตายก็แสดงว่าเป็นการฆ่าโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน โทษต้องประหารชีวิต”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *