หลังจากที่ กบ พิมลรัตน์ พิศลยบุตร ออกมาเปิดใจว่า ยุติสถานะสามีภรรยา กับ “ประสพ พลากรกิตติ” นักธุรกิจเจ้าของบริษัทเคมีโค ผู้นำธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับภูมิภาค จบรัก 9 ปีแล้ว ซึ่งเธอได้เล่าถึงปัญหาความสัมพันธ์ภายในครอบครัวทั้งหมด ทั้งการที่อดีตสามีมีครอบครัวใหม่ พอเธอได้รู้แล้วก็เหมือนปลดล็อคทุกอย่าง
ช่วงตอนหนึ่ง “กบ พิมลรัตน์” เล่าว่า ที่ยอมมาตลอด 9 ปีนั้น จริง ๆ หลังโควิดเขาก็ให้เรากลับมาทำงานแล้ว แต่บทยังไม่พอใจ พอตอนที่เขาไม่ติดเราก็มองเป็นโอกาสเราก็เริ่มมาทำคอนเทนต์เรื่องความงามมากขึ้น แต่เขาก็มองว่าน่าเกลียดทำไมต้องมาขายหน้าขายตา ซึ่งมันก็เป็นรูปแบบการทำงานของเรา
“ตลอดที่แต่งงานกัน 9 ปีทั้งมีความสุขจริงๆ และแกล้งมีความสุขเอาใจสามี อย่างหนึ่งก็คือเรารู้ว่าเรามีใคร อย่างที่สองคือตั้งใจจะประคับประครองให้ดีที่สุด การตัวติดกันมันก็อบอุ่น หรือเวลาเราทะเลาะกันแค่นอนกอดมันก็รู้สึกอบอุ่น บุคลิกเขาเราก็มองว่ามันน่ารัก ด้วยอายุที่ห่างกันมันก็จะมีความน่าเอ็นดู น่ารัก” อดีตนางเอกชื่อดังถึงขั้นกลั้นไม่ไหว ร้องไห้ออกมา
กบ พิมลรัตน์ ยังเล่าต่อว่า คิดว่าเขาไม่เข้าใจเรา บอกว่าเข้าใจ แต่เวลาคุยทุกอย่างที่คุยกันจะเป็นไปในทิศทางเขาเสมอ ถ้าคุยไม่ลงตัวก็จะปรับไปทางจิตแพทย์ บอกเราคิดไปเอง บ้าหรือเปล่า ไปหาหมอไหม เจอมากๆ เข้า เราก็เลยสงสัยในตัวเอง ไม่ชอบในตัวเอง วันที่เขามาคุยกันเราเขามีการมาปรับทุกข์ว่าเขามีความผิดพลาดในการมีครอบครัวมา และคุยกับเราว่าอยากจะมีครอบครัวที่ดี
“อายุห่างกัน 19 ปี มันปรับจูนยากค่ะ ก็ไม่มีประสบการณ์คบคนที่โตกว่า คนนี้คนแรก เขามาจากครอบครัวคนจีนจัดๆ เราก็ไทยจัดๆ ก็เลยต้องปรับกันทุกเรื่องเลย ก็ถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้า ก็ต้องแต่เราสงสัยว่าเราไม่ดีพอ จนถึงขั้นมีอาการไม่อยากตื่น ไม่อยากให้ฟ้าสว่าง ตื่นมาแล้วรู้สึกไม่มีคุณค่า เพราะเกิดจากที่เราไม่ได้ทำงาน งานที่เรารักนะ งานของเขาเราก็ดูแลในส่วนของพีอาร์ มาเก็ตติ้ง และซัพพอร์ตเขามากกว่า”
แต่ อดีตนางเอกดังบอกว่า ตอนนี้ไม่มีคิดแบบนั้นแล้ว ตั้งแต่รู้สึกปลดล็อก 24 ชั่วโมงยังไม่เคยพอเลย ได้ทำนั่นทำนี่แล้วไม่มีใครมาว่า โลกซึมเศร้าก็ดีขึ้นยาลดลง ก็คุมอาการ ช่วงที่บอกเลิกกันก็เดอะแบก แบกไว้กับตัวเอง มีช่วงนึงหยุดแล้วหายไปแล้ว พอทำตามเขาปัญหาก็ไม่มี เราก็แลก ได้รับความรัก ความอบอุ่นจากเขา
“ตอนนี้ใช้คำว่าเลิกแล้ว แต่เคลียร์กันไม่ลงตัว คือหลังเลิกแล้วก็ยังเคลียร์ไม่ลงตัว เพราะเราบอกให้เขามาคุย เขาก็ส่งคนมาคุยก็ยังไม่ลงตัว มีการต่อรองแบบที่ข่าวออกไป อย่างขอไปอยู่กับลูก 2 วัน ก็เพิ่มเลเวลแบบที่ข่าวออก 50/50 เราก็เข้าใจไม่ใช่ไม่เข้าใจ เลยคิดว่าพอดีกว่า”
ส่วนเรื่องทะเบียนสมรส กบ พิมลรัตน์ อธิบายว่า เราคุยกันตั้งแต่แรก แต่ก็ยังไม่มีการทำ เป็นส่วนนึงที่เราฟ้องด้วย คือมันมีการคุย เขาทำเกี่ยวกับธุรกิจไม่ขอลงดีเทล 5 ปีจะจดทะเบียน อีก 5 ปีเราก็ถามอีกก็มีเหตุผลอีก เราก็ทวงถามก็กลายว่าเราเป็นคนไม่ดี ในกรณีของเรามันมีการตกแต่ง ถึงไม่มีลายลักษณ์อักษรตามที่ตกลงไว้แต่มันมีภาพออกไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ด้าน ทนายความได้เสริมนิดหน่อยว่า เป็นเรื่องของผิดสัญญาหมั้น เพราะฉะนั้นการหมั้นคือการให้สัญญาว่าจะสมรส และไม่สมรสสิ่งที่เรียกได้คือค่าชดเชย สามารถเรียกร้องได้
