วันที่ 14 ธันวาคม 2568 เพจเฟซบุ๊ก Army Military Force ซึ่งเป็นเพจที่ได้เกาะติดสถานการณ์ชายเเดนไทย – กัมพูชา อย่างใกล้ชิด ได้รายงานโดยโพสต์ข้อความระบุว่า ทหารไทยสามารถยึดระบบขีปนาวุธต่อต้านรถถังนำวิถียุคที่ 5 รุ่น GAM-102LR สัญชาติจีน จากทหารกัมพูชาบนเนิน 677 ได้เป็นจำนวนมาก ขีปนาวุธดังกล่าวเป็นอาวุธที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปีนี้ และถือเป็นการค้นพบอาวุธหนักและทันสมัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในแนวรบ

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก Army Military Force
นอกจากนี้ระบบขีปนาวุธต่อต้านรถถังนำวิถีแบบ GAM-102LR ยังได้รับแรงบันดาลใจจากระบบขีปนาวุธต่อต้านรถถังนำวิถี FGM-148 Javelin ของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
GAM-102LR ผลิตโดยบริษัทอาวุธชั้นนำของประเทศจีน ชื่อ Poly Defense ในเครือ Poly Technologies และถูกเปิดตัวครั้งแรกภายในงานนิทรรศการอาวุธยุทโธปกรณ์ EDEX ประจำปี 2025
มีการประเมินราคาต่อลูกของขีปนาวุธ GAM-102LR อยู่ที่ประมาณ $112,000 USD หรือคิดเป็นเงินไทยราว 3,530,240 บาท

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก Army Military Force
สำหรับ GAM-102LR ถูกจัดให้เป็นขีปนาวุธนำวิถีต่อต้านยานเกราะ (ATGM) รุ่นที่ 5 แต่ละลูกมีนํ้าหนัก 52 กิโลกรัม (5th Generation Multi-Purpose Ultra Long-Range Precision Guided Anti-Tank Missile System) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลขีปนาวุธต่อต้านรถถัง GAM-10X
GAM-102LR เป็นระบบ ยิงแล้วลืม (Fire-and-Forget) และยังเป็นอาวุธหลายวัตถุประสงค์ (Multi-purpose weapon) ที่มีมีหัวนำวิถีขั้นสูง (Advanced homing head) และมีความแม่นยำสูง ซึ่งสามารถใช้ยิงได้ในโหมด Lock-on-After-Launch (LOAL) และ Man-in-the-Loop เพื่อการเลือกเป้าหมายใหม่กลางอากาศ

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก Army Military Force
ขีปนาวุธต่อต้านรถถังนำวิถีในปัจจุบันมีศักยภาพในการโจมตีที่หลากหลาย โดยสามารถนำไปใช้ยิงเป้าหมายอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ฐานที่มั่นทางทหาร, ยานเกราะ, บ้านเรือน, และเรือรบ ฯลฯ ซึ่งหมายความว่า ขีปนาวุธเหล่านี้ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่การใช้งานกับรถถังเท่านั้น แต่สามารถใช้โจมตีได้ทุกเป้าหมายที่อยู่ในพิสัย