ญาติยังไม่บอก “น้องฟ่าง” เรื่องพ่อ กลัวกังวลใจ เพ้อถึงลูกชาย บ่นเมื่อไหร่จะกลับ

Author:

ผู้ว่าฯ รุดเยี่ยม พ่อฟ่าง เผยจังหวัดมีอัดฉีดและจัดงานต้อนรับแน่นอน ขณะที่อายังไม่บอกน้อง หวั่นกังวลใจ ด้านพ่อเพ้อหาแต่ลูก ถามหากลับมารึยัง

จากกรณีที่ นายธีรพงศ์ ศิลาชัย หรือ น้องข้าวฟ่าง นักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย ชาวจังหวัดศรีสะเกษ คว้าเหรียญเงิน โอลิมปิก เกมส์ ปารีส 2024 จากรุ่น 61 กิโลกรัมชาย ต่อมานายเษม ศิลาชัย พ่อของน้อง ได้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศรีสะเกษ เนื่องจากพักผ่อนไม่เพียงพอ ตามที่มีการได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 9 ส.ค.2567 ที่ตึกอายุรกรรมชาย 1 อาคาร9/1 ชั้น 5 โรงพยาบาลศรีสะเกษ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นพ.เรืองเดช พิพัฒน์เยาว์กุล รอง ผอ.ด้านบริการตติยภูมิ รรท.ผอ.รพ.ศรีสะเกษ ได้เข้าเยี่ยมอาการป่วย ของนายเษม ศิลาชัย พ่อข้าวฟ่าง เพื่อมอบกระเช้าดอกไม้ เงินจำนวนหนึ่ง และสอบถามอาการล่าสุด

ซึ่งขณะนี้อาการของพ่อน้องข้าวฟ่างดีขึ้นตามลำดับ โดยมี น.ส.เกษร ศรีสังข์ อายุ 39 ปี อาของน้องข้าวฟ่าง และนางเสงี่ยม ม่วงศรี อายุ 66 ปี ป้าของน้องข้าวฟ่าง ดูแลอยู่ไม่ห่าง

ด้าน นพ.เรืองเดช เปิดเผยว่า งสาเหตุของอาการป่วยของพ่อน้อง มาจากการที่เกลือแร่ในร่างกายผิดปกติ พักผ่อนน้อย เพราะอาจจะต้องเชียร์น้องข้าวฟ่างหลายวัน แต่ขณะนี้อยู่ในอาการปลอดภัยแล้ว และคาดว่าอีกไม่นาน จะสามารถกลับบ้านได้ ไม่มีอะไรที่ต้องน่าเป็นห่วง

ขณะที่ ผู้ว่าฯศรีสะเกษ กล่าวว่า ศรีสะเกษเป็นจังหวัดที่มีนักกีฬาประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ทั้งวันดี คำเอี่ยม และน้องข้าวฟ่างเอง ซึ่งทางจังหวัดศรีสะเกษ จะได้หารือกันเพื่อให้การต้อนรับ ฮีโร่โอลิมปิก อย่างเหมาะสม ในส่วนของเงินอัดฉีดนั้นมีแน่นอน แต่ตัวเลขจำนวนเงินยังไม่สามารถบอกได้

แต่ก็มีทั้งเงินและสิ่งของที่หลายๆ ส่วนต้องการจะนำมาให้กำลังใจน้อง ซึ่งน้องข้างฟ่างเป็นความภูมิใจของชาวศรีสะเกษ ตัวน้องเกิดที่ขุนหาญ เรียนที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 29 และเรียนที่มหาวิทยาลัยการกีฬา วิทยาเขตศรีสะเกษ ซึ่งพวกเราภูมิใจ ในความเป็นศรีสะเกษ ที่ทำความสำเร็จและความภูมิใจให้กับประเทศชาติ

ด้าน น.ส.เกษร อาของน้องข้าวฟ่าง เปิดเผยว่า ตอนนี้ ยังไม่ได้แจ้งถึงอาการป่วยของพ่อให้กับน้องทราบ เพราะน้องได้เก็บโทรศัพท์ไว้ จนถึงวันที่ 12 ส.ค.และตนคิดว่า ทางโค้ชก็คงยังไม่ได้บอกถึงอาการของพ่อให้กับน้องทราบ ซึ่งตนก็ยังไม่ได้แจ้งข้อมูลต่างๆ ให้กับโค้ชน้องทราบ เพราะอยากให้โฟกัสที่การแข่งขันมากกว่า

ถึงแม้ตัวน้องเองจะแข่งขันเสร็จแล้ว แต่ด้วยตัวน้องเองยังอยู่ต่างประเทศด้วย ตนจึงไม่อยากให้น้องต้องกังวลใจ ซึ่งตนคิดว่า หลังจากที่น้องได้โทรศัพท์คืนแล้ว และน้องทักมา ตนจึงจะแจ้งให้น้องทราบถึงอาการของพ่อ น่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า ซึ่งจากที่ตนเฝ้าดูอาการของพ่อน้อง ตอนนี้ ยังมีอาการเบลอๆ และเพ้อหา ถึงแต่เรื่องลูกชาย และโอลิมปิก ถามว่าลูกชายกลับมาหรือยัง และเรื่องจะไปสอยมะพร้าวขาย ซึ่งจะพูดซ้ำแต่สองประโยคนี้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *