วันที่ 2 สิงหาคม 2567 กรมราชทัณฑ์ได้ออกแถลงการณ์ ชี้แจง โดยระบุว่า ได้รับรายงานจากเรือนจำกลางบางขวางในกรณีดังกล่าวว่า ได้รับตัว เสี่ยโป้ จากเรือนจำกลางคลองเปรม เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 เนื่องจากมีพฤติการณ์กระด้างกระเดื่องต่อการปกครอง ยากต่อการควบคุม โดยนายเสี่ยโป้ ถูกฟ้องดำเนินคดี จำนวน 3 คดี รวมกำหนดโทษ 38 ปี 6 เดือน ได้แก่ คดีที่ 1 ความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรือทำอุบายช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนัน พิพากษาจำคุก 5 ปี คดีที่ 2 ความผิดฐานร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ร่วมกันเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ ร่วมกันเป็นผู้เล่นหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นฯ ศาลอาญาพิพากษาให้จำคุก 20 ปี คดีที่ 3 ความผิดต่อชีวิต ความผิดต่อ พรบ.อาวุธปืนฯ ศาลอาญาธนบุรี พิพากษาให้จำคุก 13 ปี 6 เดือน และขอชี้แจงในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
ประเด็นเรื่อง การเลือกปฏิบัติต่อผู้ต้องขังที่ถูกคุมขังในระหว่างพิจารณาคดีเสมือนเป็นผู้ต้องขังเด็ดขาด เรือนจำกลางบางขวางขอเรียนว่า ทางเรือนจำฯ ได้กำหนดให้ผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี เยี่ยมญาติได้สัปดาห์ละ 1 วัน เนื่องจากเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง มีการแยกคุมขังหลายแดน ซึ่งนายเสี่ยโป้ฯ ได้รับการเยี่ยมญาติตามที่เรือนจำกำหนดอย่างต่อเนื่อง และทางเรือนจำฯได้อำนวยความสะดวกและอนุญาตในการพบทนายความทุกครั้ง รวมถึงได้มีการแยกกลุ่มผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีและผู้ต้องขังเด็ดขาดออกจากกัน โดยการแบ่งรอบเวลาเยี่ยม เพื่อมิให้ผู้ต้องขังเกิดการแลกเปลี่ยน เรียนรู้และสร้างเครือข่ายร่วมกัน ประเด็นดังกล่าวจึงมิได้มีการเลือกปฏิบัติแต่อย่างใด แต่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และระเบียบของทางราชการ
ประเด็นกล่าวอ้างเรื่อง การลอบฆ่า พบว่า หลังจากนายเสี่ยโป้ ได้ย้ายมาที่เรือนจำกลางบางขวาง มักมีพฤติกรรมทะเลาะวิวาทกับผู้ต้องขังรายอื่น เนื่องจากเป็นผู้ต้องขังที่มีพฤติการณ์ชอบอยู่เหนือผู้ต้องขังอื่น มีลักษณะเอะอะโวยวาย ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ผู้ต้องขังอื่นไม่พอใจ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2567 นายเสี่ยโป้ ได้มีเหตุทะเลาะวิวาทกับกลุ่มผู้ต้องขังอื่น ซึ่งเจ้าหน้าที่เรือนจำฯ ได้เข้าระงับเหตุโดยทันที และนายเสี่ยโป้ฯ ไม่ได้รับบาดเจ็บหรือเป็นอันตรายจากเหตุการณ์ดังกล่าวหลังจากนั้น ก็ไม่ปรากฏว่ามีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทอีก ทั้งนี้เรือนจำฯ มีการตรวจค้นจู่โจมภายในแดนเป็นประจำ เพื่อป้องกันการชุกซ่อนอุปกรณ์ดัดแปลงต่าง ๆ รวมถึงสิ่งของต้องห้ามที่ผิดระเบียบของทางเรือนจำฯ ดังนั้น จึงขอยืนยันว่า ไม่มีอุปกรณ์หรือเหล็กแหลมมาใช้ก่อเหตุตามที่นายเสี่ยโป้ฯ กล่าวอ้างแต่อย่างใด
สำหรับประเด็นที่นายเสี่ยโป้ มีอาการไอเป็นเลือด และกล่าวอ้างว่าไม่ได้รับการรักษาตามหลักการแพทย์ และให้น้ำเกลือในห้องธรรมดาที่ไม่ถูกสุขลักษณะนั้น ขอเรียนว่า เรือนจำกลางบางขวาง มีโรงพยาบาลในเรือนจำ ซึ่งประกอบด้วยบุคลากรทางการแพทย์ ที่สามารถตรวจรักษาอาการให้กับผู้ต้องขังในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือมีเหตุเจ็บป่วยเบื้องต้นได้ โดยในกรณีของนายเสี่ยโป้ฯ ได้มีการส่งให้แพทย์จากโรงพยาบาลบางขวาง ทำการตรวจรักษาตามมาตรฐานทางการแพทย์ โดยผลการตรวจร่างกายและผลเลือดในห้องปฏิบัติการ ปรากฏว่า ผลตรวจเลือดปกติ และหลังจากนั้นก็ไม่มีกรณีไอหรืออาเจียนเป็นเลือดอีก มีเพียงอาการเจ็บป่วยเป็นไข้ธรรมดา และได้จ่ายยารักษาตามอาการ ซึ่งมีอาการเป็นปกติจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ประวัติการรักษาของนายเสี่ยโป้ฯ จากโรงพยาบาลเอกชน พบว่ามีอาการแพ้อากาศ เป็นหวัดเท่านั้น ไม่พบอาการเจ็บป่วยร้ายแรงแต่อย่างใด
กรมราชทัณฑ์ ขอยืนยันว่า เรือนจำกลางบางขวางมีมาตรการในการควบคุม ดูแลผู้ต้องขังอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันอันตรายต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ต้องขังคดีสำคัญทุกกรณี และหากพบว่า มีการสั่งการจากผู้มีอิทธิพลภายนอก สามารถแจ้งเบาะแสหรือให้รายละเอียดเพิ่มเติมแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป