ทนายกิ่ง ศิริญญ์รดา เลืองวัฒนะวณิช ทนายความสาวสวย ผู้ดูแลคดีของ ปู มัณฑนา ซึ่งกำลังเป็นกระแสอยู่ ณ ขณะนี้ หลังเกิดไวรัล ปะทะคารมคำต่อคำในรายการโหนกระแส ระหว่างทนายกิ่ง กับ ลิลลี่ เหงียน คู่กรณี โดยฝ่าย ลิลลี่ชี้หน้าทนายกิ่ง บอกว่า “โกหก ตอแxล” นอกจากนี้ ทนายกิ่งยังถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่า การเป็นทนายความให้ ปู มัณฑนา จะเป็นการช่วยเหลือฝ่ายผิดหรือไม่ อย่างไร
ทนายกิ่ง เปิดใจ ประเด็นแรกเรื่องที่ถูกชี้หน้าด่ากลางรายการตอนแรกตนเองไม่ได้ติดใจเอาความอะไรแต่พอมาดูเทปย้อนหลัง ประกอบกับหลังจบรายการในวันรุ่งขึ้น ลิลลี่ เหงียน โพสต์ instagram ด่าทอตนเองไม่หยุด และยังด้อยค่าการทำอาชีพทนายของตน ตนจึงรักษาสิทธิ์ด้วยการไปแจ้งความดำเนินคดี ฐานหมิ่นประมาทไว้ที่ สน.วังทองหลาง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ตนมองว่า สิ่งที่คู่กรณีทำ ด่าทอดูถูกตน คิดว่าเหมือนคำสุภาษิตไทยที่ว่า “สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล” การด่าทอ ด้อยค่าคนอื่น ไม่ได้ทำให้คนที่ด่า ดูสูงขึ้น ตนเองถูกอบรมเลี้ยงดูมาไม่เคยมีใครสอนให้ด่าคนอื่นหรือด้อยค่าคนอื่นในที่สาธารณะ ต่อหน้าผู้คนและยิ่งเหตุการณ์ที่ตนเองเจอคือ ด่าออกรายการโทรทัศน์
ตนจึงขอรักษาสิทธิ์ด้วยการแจ้งความดำเนินคดีกับลิลลี่ เหงียน หากทางคู่กรณีจะนำกระเช้ามาขอโทษและพูดคุยปรับความเข้าใจกัน ตนต้องขอดูที่ความจริงใจก่อน ว่าขอโทษออกมาจากใจหรือไม่
นอกจากนี้ ที่ลิลลี่โพสต์คลิป ไลฟ์สด บอกว่า สิ่งที่ตัวเองทำเป็นสิ่งที่ถูกต้อง หากดำเนินคดีจะยอมติดคุก ตนมองว่า ถ้าวันนึงคุณถูกดำเนินคดีและต้องติดคุกนั่นไม่ใช่ความดี แต่คือความผิด การที่คุณติดคุกคือคุณกระทำความผิด
ส่วนเรื่องคดีความที่สังคมกำลังดรามา ตำหนิการทำหน้าที่ทนายความ ตนไม่ได้รู้สึกหนักใจเพราะตนทำหน้าที่ตามหลักวิชาชีพตามหลักของจรรยาบรรณการเป็นทนายความ เพราะหากเป็นอาชีพหมอ ถ้ามีคนร้ายหรือฆาตกรได้รับบาดเจ็บมา หมอก็ต้องทำการรักษาให้
ซึ่งกรณีนี้ลูกหนี้ก็มีสิทธิ์ที่จะมีทนายความและตนไม่ได้จะเข้าข้างคนผิด แต่ลูกหนี้ต้องชดใช้หนี้หรือรับผิดตามความผิดที่ก่อเท่านั้น กรณีนี้หากฟังคุณลูกหมีและลิลลี่ เหงียนที่เป็นเจ้าหนี้มาหาตน ตนก็จะมีคำแนะนำในการติดตามทวงหนี้โดยที่ไม่ต้องโดนคดีหมิ่นประมาทเพิ่ม
ขณะที่ อาจารย์ประมาณ เลืองวัฒนะวณิช เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสดรามา ทัวร์ลงทนายกิ่ง ลูกสาวของตน อาจารย์ประมาณ บอกว่า ลูกสาวตนเองจบนิติศาสตร์ซึ่งเป็นความคิดที่ตนต้องการให้ลูกสาวเรียนมาและจบทำงานด้านนี้อยู่แล้ว ในฐานะที่ตนเป็นพ่อมั่นใจว่า ลูกสาวแข็งแกร่งพอที่จะทนกับกระแสสังคมที่กำลังเจออยู่ขณะนี้
ซึ่งตนได้ตรวจสอบพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้วตั้งแต่กรณีของคุณลูกหมี กับปูมัณฑนา จนไปถึงลิลลี่ เหงียน ตนจึงมอบหมายให้ลูกสาวก็ทำหน้าที่ในฐานะที่เป็นทนายความให้กับลูกหนี้ ก็ทำหน้าที่ตามหลักจรรยาบรรณวิชาชีพตนไม่ได้หนักใจและจะสามารถพิสูจน์ความจริงได้
แต่อยากฝากถึงทนายของเจ้าหนี้การพาลูกความแถลงข่าว ออกสื่อฯ เดินสายออกรายการเพื่อทวงหนี้แบบนี้ทำให้ลูกหนี้เสื่อมเสียชื่อเสียงและเหมือนเป็นการใช้สื่อมากดดันมาบีบให้ลูกหนี้ต้องชดใช้หนี้ กลับได้คดีหมิ่นประมาทไปเพิ่ม ซึ่งคนที่เป็นหนี้ก็ต้องชดใช้หนี้ถูกต้องแล้ว แต่การจ่ายจะต้องจ่ายเท่าไหร่เพียงใดต้องมาว่ากันตามข้อเท็จจริง
วันนี้ถ้าให้ขึ้นเวทีเผชิญหน้ากับทนายเดชา ตนเองก็พร้อม จะให้เป็นทนายเดชามากับทนายกุ้งแล้วตนเองคนเดียวก็ได้หรือจะให้ตนขึ้นเวทีพร้อมกับลูกสาว ตนก็ยินดี เพราะถือว่าเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเดียวกัน ก็มาพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐาน ตนพร้อมกลางหลักฐานทุกอย่างให้สังคมได้เห็นข้อเท็จจริง