ทนายความ เผย คำพูดสุดท้าย บุ้ง ทะลุวัง ขอทุกคนโฟกัสสาเหตุการตาย ‘ตะวัน’ ช็อกร้องไห้ตลอด เห็นตอนหมดสติ ยังไม่รู้เสียชีวิตแล้ว
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 14 พ.ค.2567 ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ภายหลังจากที่ น.ส.เนติพร หรือ บุ้ง นักกิจกรรมกลุ่มทะลุวัง ผู้ต้องขังคดีทางการเมือง ล้มฟุบและหัวใจหยุดเต้น แพทย์ต้องปั๊มหัวใจยื้อชีวิตแต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา
นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า จากการที่คุยกับคุณหมอยืนยันว่าบุ้งได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ แต่เบื้องต้นยังไม่ได้เจอหรือพูดคุยกับครอบครัว เนื่องจาก ครอบครัวยังทำใจไม่ได้ เท่าที่ทราบจากหมอที่ทางห้องฉุกเฉินส่งมาว่าสาเหตุการเสียชีวิต เบื้องต้นเกิดจากหัวใจล้มเหลว
นายกฤษฎางค์ กล่าวต่อว่า ส่วนสาเหตุการตายที่แท้จริงหมอจะต้องชันสูตรพลิกศพและผ่าชันสูตรในวันที่ 15 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น. ก่อนจะส่งผลเลือดต่าง ๆ ไปตรวจสอบตามขั้นตอน ในวันนี้ร่างของบุ้งยังอยู่ที่นิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ พนักงานสอบสวน จะต้องมาชันสูตรพลิกศพว่าสาเหตุการตายผิดธรรมชาติหรืออย่างไร
นายกฤษฎางค์ กล่าวอีกว่า ส่วนตัว ตนรู้ข่าวในช่วงเวลา 06.00 น.ของวันนี้ หลังจากที่มีคนโทรมาบอกว่า ขณะที่บุ้งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ช่วงเวลา 06.00 น. บุ้งเป็นลม ล้มหมดสติ แต่ตนไม่ได้เห็น
นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ว่าหัวใจหยุดเต้น สัญญาณชีพไม่มี จึงได้รีบปั๊มหัวใจเพื่อช่วยเหลือทันที แต่สัญญาณชีพไม่ขึ้น จึงได้ส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ จากนั้นหมอได้ทำการปั๊มหัวใจต่อประมาณ 4-5 ชั่วโมง สุดท้ายก็เสียชีวิตในเวลา 11.22 น.
นายกฤษฎางค์ กล่าวอีกว่า เมื่อมาถึงที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าสาเหตุการเสียชีวิต คือหัวใจล้มเหลว ส่วนตัวตนมองว่ามันเป็นการบอกสาเหตุการเสียชีวิตที่กว้างเกินไป แต่ขอยังไม่ออกความคิดเห็นอะไรมาก ขอรอดูรายละเอียดให้ชัดเจนก่อน
ส่วนตัว ตนไม่ได้เข้าเยี่ยมบุ้ง แต่ว่าจะมีทนายประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนตลอด จากการสังเกตกายภาพของบุ้ง เริ่มบวม เจ้าตัวปวดท้อง อ่อนเพลีย แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องอะไรมาก ย้ำแค่ว่า ป่วย
- อ่านข่าว : เปิดพินัยกรรม บุ้ง ทะลุวัง ยกทรัพย์สินให้ น้องหยก เผยรายละเอียด
- อ่านข่าว : ด่วน บุ้ง กลุ่มทะลุวัง เสียชีวิตแล้ว หลังหัวใจหยุดเต้น ส่งร่างชันสูตรพลิกศพ
- อ่านข่าว : เผยอาการล่าสุด บุ้ง ทะลุวัง หลังหัวใจหยุดเต้น น้ำหนักลดกว่า10กิโลกรัม
โดยอาการดังกล่าวเท่าที่วิเคราะห์กับคุณหมอ มันคือการของคนที่อดอาหารเป็นเวลานาน เท่าที่ทราบช่วงหลังทางครอบครัวพยายามขอร้องให้บุ้งรับประทานอาหาร แต่ก็ทานไม่ได้เนื่องจากอดอาหารเป็นเวลา 30-40 วันมาแล้ว จึงได้ให้อาหารเสริมแคลเซี่ยมหรือน้ำแทน แต่ก็ยังมีลักษณะอ่อนเพลียอยู่
หลังจากนี้ถ้าหากผลการชันสูตรร่างของบุ้งออกมาอย่างละเอียดแล้วพบว่าการเสียชีวิตเป็นการตายโดยธรรมชาติ ครอบครัวก็จะยอมรับ แต่ถ้าหากว่าผลออกมาเป็นการตายแบบผิดธรรมชาติ ทางกรมราชทัณฑ์จะต้องออกมาชี้แจง
“โดยก่อนที่บุ้งจะเสียชีวิต สิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดคือครอบครัว และยังยืนหยัดว่า เขายังเชื่อในสิ่งที่เขาเรียกร้องมาตลอด”
ซึ่งวันนี้เมื่อช่วงเช้าหลังจากที่เป็นข่าว พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.กระทรวงยุติธรรม ได้โทรศัพท์มาหาตน พร้อมกับย้ำว่า กังวลเรื่องความโปร่งใส จึงอยากจะให้ทำการชันสูตรที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเลย ไม่ต้องส่งตัวไปที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เพราะบุ้งมีคดีความทางการเมืองหลายคดี
ซึ่งตนเห็นด้วยกับประเด็นนี้มาก ซึ่งที่ผ่านมาทนายพยายามจะยื่นประกันตัวบุ้งได้ไม่กี่ครั้งในคดี ม.112 และทางศาลได้ถอนประกันในคดีอื่น ๆ แต่คดีนี้ศาลอาญากรุงเทพใต้ ไม่ให้ประกันตัว
เมื่อถามถึงพินัยกรรมที่บุ้งเขียนยกทรัพย์สินบางส่วนให้ หยก ทนายความ กล่าวว่า ก็ว่าไปตามข้อกฎหมาย สินทรัพย์มรดก ถ้าถูกต้องชอบธรรมก็เป็นไปตามนั้น และตนก็เห็นพินัยกรรมฉบับดังกล่าวแล้วเป็นหนังสือระบุชื่อชัดเจน แต่ก็ขอให้ผู้จัดการมรดกเป็นคนจัดการ
ตนไม่อยากพูดอะไรมากเพราะก็เพิ่งเสียไปเมื่อเช้า พร้อมขออย่าพึ่งโฟกัสประเด็นดังกล่าวให้ไปโฟกัสถึงสาเหตุการตาย ว่าทำไมถึงตายหรือทำไมถึงปล่อยให้ตาย หรือทำไมไม่รีบส่งรักษา หลังจากขอร้องมานานแล้ว ซึ่งกรมราชทัณฑ์จะต้องตอบประเด็นนี้ให้ได้
อีกทั้งที่ผ่านมาทางทีมทนายได้ยื่นขอส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติแต่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ยืนยันว่ารักษาได้ แต่พอเกิดเรื่องแบบนี้ ก็กลับส่งตัวมาที่นี่ ทั้งที่ตนก็ทำเรื่องมาโดยตลอด พร้อมตั้งคำถามถึงระบบ มาตรฐานของกรมราชทัณฑ์ไทยว่ามันมีหรือไม่
เมื่อถามว่าตอนนี้มีใครยังอดอาหารภายในเรือนจำอยู่อีกหรือไม่ ทนายความ กล่าวว่า ส่วนตัวตนดูแลคดีของน.ส.ทานตะวันในคดีบีบแตรขบวนเสด็จที่มีโทษสูงสุด 7 ปี มีโทษขั้นต่ำ ซึ่งยังคงอดอาหารอยู่และยังไม่ได้รับการประกันตัว พร้อมตั้งคำถามจะต้องปล่อยให้ตายแบบนี้อีกหรือไม่ ส่วนแฟรงค์ตนไม่ได้ดูจึงไม่ทราบว่าอดอาหารหรือไม่
นอกจากนี้ ทนายยังบอกอีกว่า เมื่อเช้าทานตะวันอยู่กับบุ้ง ช่วงที่หมดสติทำให้ ทานตะวันวันนี้ไม่สามารถไปขึ้นศาลคดีบีบแตรขบวนเสด็จได้เนื่องจากตกใจและร้องไห้ตลอดเวลา เมื่อถามถึงอาการของทานตะวัน ก็อ่อนเพลีย แต่เบื้องต้นตนก็ยังไม่บอกว่า บุ้งเสียชีวิตแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ ตนจะเดินทางไปกรมราชทัณฑ์เพื่อติดต่อถึงทรัพย์สินของบุ้ง เช่นเงินที่ฝากไว้และของใช้ส่วนตัวที่อยู่ภายในเรือนจำ