ไข้เลือดออกพาพ้นนรก แอบส่งซิกให้หมอช่วย รวบพ่อเลี้ยงล่วงละเมิดนาน 6 ปี สุดช้ำฟ้องแม่ไม่เคยเชื่อ แถมช่วยสับขาหลอกตร. ให้พ่อเลี้ยงหื่นหนี
วันที่ 1 มิ.ย. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวนาย อำนวย (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ จ.417/2567 ลงวันที่ 17 พ.ค. 67 ในข้อหา “กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และเด็กนั้นอยู่ในความดูแล หรืออยู่ในความปกครอง หรืออยู่ภายใต้อำนาจด้วยประการอื่น”
โดยจับกุมตัวได้ที่ หน้าอพาร์ทเม้นแห่งหนึ่ง ภายในซ.เพชรเกษม 84 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม.
พฤติการณ์กล่าวคือ เด็กสาววัย 12 ปี ตกเป็นทาสกาม ถูกพ่อเลี้ยงล่วงละเมิดมานานกว่า 6 ปี ตั้งแต่อายุ 6 ปี จนถึง 12 ปี ล่าสุดสามารถรอดพ้นจากขุมนรกมาได้ราวปาฎิหาริย์ เมื่อเด็กสาวผู้เคราะห์ร้าย เล่าว่า เรื่องราวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 60 ในขณะนั้นอายุเพียง 6 ปี และได้พักอาศัยอยู่กับแม่แท้ๆ และพ่อเลี้ยงที่ จ.ตาก โดยพ่อเลี้ยงได้เริ่มล่วงเกิน โดยอาศัยจังหวะที่แม่ไม่อยู่บ้าน
กระทำเช่นนี้เป็นประจำ พร้อมข่มขู่ว่าหากนำความไปบอกใครจะฆ่าแม่ทิ้ง ทำให้ถูกย่ำยีเรื่อยมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า กระทั่งย้ายเข้ามาอยู่ที่ กทม. ก็ยังถูกกระทำเช่นนี้ซ้ำๆเช่นเดิม ซึ่งหลายๆ ครั้งพยายามที่จะบอกให้แม่ทราบ แต่แม่ไม่เชื่อ กลับเข้าข้างพ่อเลี้ยงมากกว่า จนกระทั่งช่วงเดือน พ.ค. 66 หลังจากถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนอย่างหนัก จนป่วยร่างกายอ่อนแอ และเป็นไข้เลือดออก แล้วเข้าไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล ได้พบกับหมอที่ใจดี และรับฟังอาการป่วยอย่างตั้งใจ จึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ถูกกระทำให้กับหมอทราบ
หลังได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด หมอผู้น่ายกย่องรายนี้ดำเนินการประสานงานนักสังคมสงเคราะห์ทันที ก่อนตรวจร่างกายอย่างละเอียดแล้วพบว่า อวัยวะเพศฉีกขาด ถูกล่วงละเมิดทางเพศมาจริงๆ หมอเห็นว่าหากส่งกลับไปอยู่กับครอบครัวก็เหมือนต้องส่งกลับไปอยู่ในนรกบนดิน จึงได้แจ้งให้เจ้าพนักงานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กมารับตัวไปพักอาศัยที่บ้านพักเด็ก และครอบครัวกรุงเทพมหานคร หลังจากนั้นเมื่อพี่ชายทราบเรื่องราว จึงพาเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.หลักสอง ต่อมาได้มีการออกหมายจับพ่อเลี้ยงใจทราบรายนี้ในที่ หลังทราบเรื่องเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี แต่แม่แท้ๆของเด็กสาวผู้เคราะห์ร้าย สับขาหลอกเจ้าหน้าที่ให้ไขว้เขว อ้างไม่รู้ไม่เห็นไม่ทราบ “มันหนีไปแล้ว”
เรื่องนี้ถึงหูของ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งชุดสืบสารวัตรแจ๊ะ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น.ติดตามจับกุมตัว โดยท้ายสุดสามารถจับกุมตัวได้ขณะกำลังอยู่กับแม่แท้ๆ ของเด็กสาวผู้เคราะห์ร้าย โดยขณะจับกุม ชุดสืบสวนได้สอบถามแม่ของเด็กสาวว่า “เหตุใดต้องสับขาหลอกช่วยเหลือคนร้าย ไม่สงสารบุตรสาวตัวเองหรือ?” ได้รับคำตอบว่า “ลูกสาวพูดไม่รู้เรื่อง”
ในชั้นจับกุม นายอำนวยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองได้พบกับผู้เสียหายครั้งแรกเมื่อตอนที่เธอ 3 ขวบ เพราะเริ่มคบกับแม่ของเด็กผู้เสียหาย ยืนยันว่าไม่ได้กระทำอะไร เด็กผู้เสียหายนั้นพูดไม่รู้เรื่อง เป็นโรคออทิสติก ครูโทรมาฟ้องบ่อยๆ ว่าไม่ตั้งใจเรียน เชื่อว่าเรื่องนี้เด็กเป็นคนกุเรื่องใส่ร้ายตนเอง”
หลังจับกุมตัว ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.หลักสอง เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ทางคดีเรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะคำพูดของเด็กนั้นบริสุทธิ์มากกว่า และจากการฟังเรื่องราวจากเด็กสาวผู้เสียหายแล้ว ไม่น่าจะมีเหตุผลใดที่เด็กสาววัยเพียง 12 ปี จะต้องโกหกปรักปรำคนในครอบครัวเดียวกัน หากไม่ถูกกระทำจริง แล้วคดีนี้พยานหลักฐานชั้นพนักงานสอบสวนก็เพียงพอ ให้ศาลอนุมัติการออกหมายจับผู้ต้องหารายนี้ จากพฤติการณ์ในคดีนี้นับว่า น่าหดหู่ใจอย่างยิ่ง สถาบัน “ครอบครัว” ที่น่าจะเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดของเด็กๆ กลับกลายเป็น “นรกบนดิน” ที่สร้างสมฟูมฟักบาดแผลหยั่งลึกลงในใจของเด็กน้อยไปนานแสนนาน