สลดยายฆ่าหลานพิการ 6 ขวบ พยายามจบชีวิต ร่วงหัวฟาดพื้น โทรตามผัวกลับบ้าน ซ้ำยังให้ช่วยฆ่าตัวเองด้วยตายตามหลาน เผยป่วยโรครุมเร้า
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 23 ก.ค.67 ร.ต.อ.ธีรยุทธ อังวะ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ลาดหญ้า จ.กาญจนบุรี รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์การ และแพทย์ รพ.พหลพลพยุหเสนา
ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ที่บริเวณด้านหลังบ้าน พบศพ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 6 ปี มีบาดแผลถูกรัดที่ลำคอ ใกล้กันพบผู้บาดเจ็บ คือ นางบี (นามสมมติ) อายุ 58 มีร่องรอยถูกเชือกรัดที่ลำคอและมีบาดแผลแตกขนาดใหญ่ที่ศีรษะ เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยหลังบ้านที่เป็นจุดพบศพ พบร่องรอยของการใช้เชือกและสายไฟผูกกับขื่อ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม นายจำรูญ อายุ 54 ปี สามีของ นางบี และเป็นตาของ ด.ญ.เอ ให้การว่า หลานสาวเป็นเด็กที่พิการสมองตั้งแต่เกิด โดยที่บ้านจะอาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน คือตน ภรรยา ลูกสาว และหลานสาว เมื่อช่วงเช้าตนและลูกสาวออกไปทำงาน มีเพียงภรรยากับหลานอยู่บ้านกัน 2 คน ปกติภรรยาตนจะรับหน้าที่เป็นคนดูแลหลานมาโดยตลอด เนื่องจากหลานพิการทางสมองไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
หลังจากภรรยาเริ่มมีอาการป่วย โรคความดันและโรคเบาหวาน และเริ่มมีอาการเครียด บ่นกับตนบ่อยครั้งว่า หากตายไปกลัวจะไม่มีใครคอยดูแลหลาน ตนก็คอยปลอบใจให้กำลังใจอยู่ตลอด กระทั่งวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา ภรรยากลับจากการไปหาหมอที่โรงพยาบาล และพบว่าตัวเองมีความเสี่ยงที่จะป่วยด้วยโรคไต ทำให้เกิดอาการเครียดอย่างหนัก
นายจำรูญ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ตนและลูกสาวออกไปทำงาน เวลาประมาณบ่ายโมงเศษ ภรรยาโทรมาหาและบอกให้ตนกลับมาที่บ้าน ก็คิดว่าภรรยาอาจจะมีอาการป่วย จึงรีบกลับมา แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านก็พบภรรยานอนจมกองเลือดอยู่ที่ด้านหลังบ้าน ส่วนหลานสาวนอนแน่นิ่งเสียชีวิตไปแล้ว โดยยังไม่ทันที่ตนจะได้ถามอะไร ภรรยาก็ขอให้ตนช่วยใช้เชือกรัดคอให้เสียชีวิตตามหลานไป ตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ
เชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากความเครียดและวิตกกังวลในอาการป่วย และกลัวว่าหากตัวเองเป็นอะไรไปจะไม่มีคนคอยดูแลหลานที่พิการ จึงลงมือกับหลาน ก่อนจะพยายามฆ่าตัวตายตาม แต่เนื่องจากสายไฟรับน้ำหนักไม่ไหว จึงขาดทำให้ร่างภรรยาตกลงมาศีรษะกระแทกพื้นจนเป็นแผลแตกขนาดใหญ่
เบื้องต้น แพทย์ รพ.พหลพลพยุหเสนา ได้รักษาจน นางบี อาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องคอยให้มีคนเฝ้าดูตลอดเวลา เนื่องจากเกรงว่าอาจจะก่อเหตุฆ่าตัวตายซ้ำอีก ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้ให้แพทย์ดูแลรักษา นางบี จนหายดี ก่อนจะอายัดตัวไปดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนตายตามกฎหมายต่อไป